Page 33 - กฏหมายในชีวิตประจำวัน
P. 33

33


               1.1.2 การตีความกฎหมาย

                 การตีความตามเจตนารมณ์กับการตีความตามตัวอักษร การตีความในกรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อกฎหมายมี
               ความกํากวมไม่ชัดเจน หรืออาจแปลความหมายไปได้หลายทางการตีความตามกฎหมายจะแยกพิจารณา

               จะต้องแยกพิจารณาออกเป็น หลักการตีความกฎหมายทั่วไป กับหลักการตีความกฎหมายพิเศษ

                 หลักเกณฑ์การตีความกฎหมายทั่วไป เป็นการหาความหมายที่แท้จริงของกฎหมาย จําเป็นต้องพิเคราะห์

               ตัวกฎหมายและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของกฎหมาย หรือเจตนารมย์ของกฎหมายการพิเคราะห์กฎหมายมี
               2 ด้าน คือ

                 (1) พิเคราะห์ตัวอักษร

                 (2) พิเคราะห์เจตนารมย์ หรือเหตุผลหรือความมุ่งหมายของกฎหมาย

                 การตีความตามกฎหมายพิเศษ มีหลักการตีความของตนเองโดยเฉพาะ
                 หลักเกณฑ์ในการหาเจตนารมณ์ของกฎหมาย มีหลักเกณฑ์บางประการที่จะช่วยหาเจตนารมณ์บาง

               ประการของกฎหมายหลักคือ

                 1) หลักที่ถือว่ากฎหมายมีความมุ่งหมายที่จะใช้บังคับได้ในบางกรณี กฎหมายอาจแปลความได้หลายนัย

               ทําให้กฎหมายไร้ผลบังคับ ปัญหาว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายจะใช้ความหมายใดต้องถือว่ากฎหมายมี

               เจตนาจะให้มีผลบังคับได้จึงต้องถือเอานัยที่มีผลบังคับได้
                 2) กฎหมายที่เป็นข้อยกเว้นไม่มีความมุ่งหมายที่จะให้ขยายความออกไป กล่าวคือ กฎหมายที่เป็นบท

               ยกเว้นจากบททั่วไปหรือกฎหมายที่เป็นบทบัญญัติตัดสิทธินั้นหากมีกรณีที่แปลความได้

               อย่างกว้างหรืออย่างขยาย กับแปลความอย่างแคบ ต้องถือหลักแปลความอย่างแคบเพราะกฎหมาย

               ประเภทนี้ไม่มีความมุ่งหมายให้แปลความอย่างขยายความ
                 การตีความกฎหมายทั่วไปกับการตีความตามกฎหมายเฉพาะ มีหลักเกณฑ์ต่างกัน คือการตีความ

               กฎหมายโดยทั่วไป คือการหาความหมายที่แท้จริงของกฎหมาย ซึ่งจําเป็นต้องพิเคราะห์ตัวกฎหมาย และ

               เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของกฎหมาย หรือเจตนารมณ์ของกฎหมาย การตีความกฎหมายต้องพิเคราะห์ 2

               ด้านคือ (1) พิเคราะห์ตัวอักษร และ (2) พิเคราะห์เจตนารมย์ หรือเหตุผลหรือความมุ่งหมายของกฎหมาย
               การแสวงหาเจตนารมณ์ของกฎหมายมีทฤษฎี 2 ทฤษฎี คือ (ก) ทฤษฎีอัตตวิสัย หรือทฤษฎีอําเภอจิต (ข)

               ทฤษฎีภววิสัย หรือทฤษฎีอําเภอการณ์

                 การตีความกฎหมายพิเศษ มีหลักเกณฑ์การตีความของตนเองโดยเฉพาะ จะนําหลักทั่วไปในการตีความ

               มาใช้โดยด้วยมิได้ เช่นกฎหมายพิเศษได้แก่ กฎหมายอาญา ซึ่งมีหลักเกณฑ์พิเศษคือ

                 (1) กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่กําหนดความผิดและโทษจึงต้องตีความเคร่งคัด
                 (2) จะตีความโดยขยายความให้เป็นการลงโทษหรือเพิ่มโทษผู้กระทําผิดให้หนักขึ้นไม่ได้

                 หลักการตีความต้องตีความตามตัวอักษรก่อนหากตัวอักษรมีถ้อยคําชัดเจนก็ใช้กฎหมายไปตามนั้น แต่

               หากตัวอักษรไม่ชัดเจนหรือมีปัญหา จึงมาพิจารณาความมุ่งหมายหรือเจตนารมย์ของกฎหมายนั้น
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38