Page 7 - เจ็ดคด พรีวังเวียง
P. 7
แบบที่ 3 แบบที่โปรเค้าใช้กัน มีข้อดีมาก ๆ คือ ในระหว่างเราใช้แรงดึงในขาข้างหนึ่งก็จะไปผ่อนแรง
กดของขาอีกข้างหนึ่งด้วยท าให้แรงที่กระท าต่อลูกบันไดเกือบเป็น 2 เท่าในการใช้แรงครั้งเดียว ในส่วนของการ
ใช้กล้ามเนื้อก็จะใช้ต่างกับการกดด้วย
ส่วนตัวผมใช้วิธี แบบที่ 1 และ 2 ร่วมกัน คือ ใช้แรงกดไปซักพักเห็นว่ากล้ามเนื้อหน้าขาด้านบนเริ่ม
เกร็ง ล้า ก็จะสลับมาใช้แบบที่ 2 โดยค่อยปรับแรงดึงให้สัมพันธ์กับเกียร์ที่ใช้อยู่ตอนนั้น ใช้ไปซักพักเมื่อรู้สึกตึง
ที่หน้าขาด้านหลังหรือกล้ามเนื้อน่อง ก็ปรับกลับมาใช้แรงกดแบบที่ 1 เป็นอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนผ่านเนิน
เขา
จะเห็นว่าการสลับการใช้งานกล้ามเนื้อด้วยวิธีนี้จะเป็นการผ่อนแรงและแชร์การเกิดกรดแลคติกไปได้ดี
ท าให้สามารถปั่นจักรยานได้นานขึ้น ซึ่งวิธีนี้ผมใช้กลับการปั่นจักรยานทางไกลด้วยเช่นกัน
เวลาบ่าย 4 โมงเย็น ผ่านเนินรับน้องมาแล้วเลี้ยวเข้าเจ็ดคดทุกคนแวะจอดซื้ออาหารกะว่าจะซื้อแล้ว
เอาไปกินข้างบน รองนนท์แจ้งว่า ออฟ ขี่มอไซด์มาเดี๋ยวออฟมาถึงค่อยรบกวนให้ขี่ลงมาซื้อดีกว่าจะได้ไม่ต้อง
แบกน้ าหนักเพิ่มเพราะต้องเจอกับการดันขึ้นเขาอีกประมาณ 3-4 โล ที่ความชัน 10-15 % ถือว่าหนักเอาการ
เพราะกลุ่มเราปั่นกันมา 90 โล แล้วโดนนวดด้วยแดด เนิน สะพาน และการหลงทาง การจะขึ้นเขาทางเข้าเจ็ด
คดจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร หลังจากตกลงกันตามนั้นทุกคนก็ออกปั่นขึ้นเขากัน ผ่านประตูด่านทางเข้า เงย
หน้าขึ้นมองเนินแรกด้วยอาการขาดความมั่นใจเนื่องจากวันนี้เรอาของมาเยอะพอสมควรและมีกระเป๋าหน้า
แฮนด์เพียงใบเดียว กระเป๋าคู่หน้าไม่มี กลัวว่าล้อหน้าจะยก ปรับท่าการนั่งให้เลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อถ่วง
น้ าหนักหน้า และเพิ่มแรงกดได้ จับแฮนด์ให้มั่น ตัวตั้ง เชิดอก รับอากาศ แต่งตัวรอ แล้วไปกันเลย เนินแรก
หนักเอาการ แต่ด้วยกลยุทธ์ที่วางไว้เราสามารถขึ้นมาได้อย่างไม่เหนื่อยมากนัก HR อยู่ Zone 3 สูงพอสมควร
แต่ยังไม่ถึงระดับที่ตั้งได้คือ Zone 4 ถ้าถึงเมื่อไรก็ลงยืนพัก พ้นเนินแรกมาเข้าสู่เนิน 2 เนินนี้ชันน้อยกว่าเนิน
แรกแต่ยาวมาก น่าจะประมาณ 1 โล เนินนี้ใช้วิธีดึง (แบบที่ 2) เพื่อผ่อนภาระกล้ามเนื้อ สภาพถนนทางขึ้นเจ็ด
คดค่อนข้างแย่ มีสันขอบถนน มีบางช่วงยางมะตอยหลุดร่อน ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือมีรถยนต์แล่นขึ้นลงอยู่
ตลอดเวลา พอรถยนต์แล่นขึ้นมาเจอเราปั่นอยู่ก็ต้องชะลอเพราะมีรถสวนลงมาไม่สามารถแซงได้ ท าให้เรา
กดดันต้องชิดขอบทางซึ่งอย่างที่บอกมันเป็นสันขอบ ถ้าพลาดมีล้มแน่นอน พยามยามประคอง จนผ่านด่าน 2
มาได้ ขาไม่แตะพื้น 5555 เหลืออีก 1 ด่านที่ส าคัญ ชันพอๆ กับเนินแรกแต่ระยะสั้นกว่า แต่ที่ต่างกันอีกอย่าง
คือ เป็นทางโค้งแบบกระชั้นหลายโค้ง เราก็ปรับมาใช้การกด (แบบที่ 1) ไล่เกียร์ขึ้นไป โดยมี เจ ตาม ติดๆ
ในช่วงทางโค้งรถยนต์ที่สวนลงมาใช้ความเร็วค่อนข้างมาก พอมีรถยนต์ตามหลังเรามายิ่งท าให้เค้าเสียจังหวะ
แซง อีกประมาณ 200 เมตร จะพ้นเนินสุดท้ายแล้ว แต่ผมถอดใจซะก่อนเพราะรักชีวิตครับ HR Zone 4