Page 21 - ITA SHINBUN 3-2017
P. 21
3. ถ้าไม่มีถังอากาศหายใจจะต้องมีการระบายอากาศก่อน เพื่อให้อากาศบริเวณนั้น อยู่ในสภาพปกติ โดยใช้พัดลม
เป่าเพื่อไล่อากาศที่เป็นพิษออก หรือดูดอากาศพิษออกมา โดยการแหย่ท่อเข้าไปในถัง ในอุโมงค์
4. เมื่อลงไปในที่อับอากาศ ต้องมีบัดดี้ด้วยอย่างน้อย 3
คน โดยคนแรกคอยก ากับดูแล โดยใช้ไตรพอด ระบบ
รอกและ เชือกผูกโยงให้เพื่อนลงไปด้านล่าง ส่วนคนที่
สองคอยตรวจวัดอากาศบริเวณนั้นตลอดเวลาว่ามีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และคนที่สามลงไปปฎิบัติงาน
ด้านล่าง โดยมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเบื้องต้น
มีเชือกรัดตัวผูกตรงใต้รักแร้ ไตรพอด ระบบรอก แต่
อย่างไรก็ตามทั้งสามคนต้องผ่านการอบรมเรื่องการเข้า
ไปท างานในสถานที่อับอากาศ
5. เมื่อลงไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขึ้นมาแล้ว จะต้องพา
ไปยังจุดปลอดภัย เหนือลม หรือที่โล่ง จากนั้นต้องมี
อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น ถังออกซิเจน ใช้ในกรณีที่ผู้ประสบ
เหตุลมหายใจอ่อน แต่หากผู้ประสบเหตุหมดสติไม่มีลม
หายใจ ต้องรีบท า CPR ปั๊มหัวใจ ซึ่งผู้ช่วยเหลือจะต้อง
เรียนวิธีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและ การใช้ถังออกซิเจน
อุทำหรณ์สอนใจ คิดช่วยเหลือต้องปลอดภัย
“การคิดว่าเป็นบ่อบ าบัดน ้าเสียไม่น่าจะมีปัญหา เคยเปิดฝาท่อระบายน ้าไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่มันไม่
เหมือนกัน ในท่อระบายน ้ามีน ้าไหลอยู่ตลอด เกิดก๊าซอันตราย 3 ชนิดเช่นกัน เพียงแต่ความเข้มข้นไม่มากเท่ากับ
บ่อรวบรวมน ้าเสียที่น ้านิ่งๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว อย่างบ่อในโรงงาน เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ
ดังนั้น ความห่วงที่จะช่วยคนให้ปลอดภัย โดยที่ไม่ค านึงว่าตัวเองจะมีอันตราย แม้ว่าข้างบนจะมีอากาศ
หายใจ แต่พอยิ่งลงไปด้านล่างอากาศยิ่งน้อย ยิ่งมีก๊าซพิษมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็ฯสาเหตุที่ท าให้เกิดเรื่องเศร้าสลดขึ้น
จากความมีจิตใจเมตตา เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ส าคัญ ที่น่าห่วงเช่นกัน
ที่มา: https://www.thairath.co.th/content/983617
