Page 43 - ED 211
P. 43
โอกาสที่เป็นไปได้ที่จะเปิดให้กับลูกหลานไม่มีความแตกต่างไปจากโอกาสที่เปิดให้กับบรรพบุรุษ ในช่วง
ปลายศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18 การน าความรู้ที่ได้จากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในช่วงของการ
ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ไปใช้ในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ท าให้ประเทศยุโรปตะวันตกเปลี่ยนผ่าน
จากขั้นสังคมแบบดั้งเดิมไปสู่ขั้นการทะยานขึ้นทางเศรษฐกิจ แต่ส าหรับประเทศโลกที่สาม รอสทาวเชื่อว่า
เงื่อนไขดังกล่าวไม่ได้มาจากภายใน หากแต่ต้องมาจากสังคมภายนอกที่มีความก้าวหน้ามากกว่า เมื่อเข้า
สู่ขั้นที่สามซึ่งเป็นขั้นของการทะยานขึ้นทางเศรษฐกิจ การเติบโตทางเศรษฐกิจจะกลายเป็นเงื่อนไขปกติ
ของสังคม รายได้ประชาชาติจะเพิ่มจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 10 หรือมากกว่า เมื่อสังคมเข้าสู่ขั้นของ
การผลักดันไปสู่ความมั่งคงทางเศรษฐกิจ จะมีการน าเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ทั้งหมด การผลิตมีความซับซ้อนและมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น รายได้ประชาชาติจะเพิ่ม
เป็นร้อยละ 10-20 ขั้นสุดท้ายคือ ขั้นที่สังคมมีมวลชนที่มีการบริโภคในระดับสูง ซึ่งจะบรรลุได้เมื่อคน
ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยเพียงพอที่จะบริโภคสินค้าอื่น ๆ นอกเหนือไปจากสินค้าที่ตอบสนองความต้องการ
พื้นฐาน คือ อาหาร ที่อยู่อาศัยและเสื้อผ้า (Rostow. 1960: 4-16)
เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ แนวคิดการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัยมีอิทธิพลอย่าง
ส าคัญต่อการก าหนดแนวทางในการพัฒนาของประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากแผนพัฒนาการเศรษฐกิจ
แห่งชาติ ฉบับที่ 1 ทั้งระยะที่ 1 และ 2 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2-7 ที่วาง
นโยบายการพัฒนาประเทศโดยให้ความส าคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลัก มีการเร่งรัดการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยใช้
ทรัพยากรธรรมชาติและมนุษย์เป็นฐานในการสร้างรายได้และการมีงานท า ก่อนที่จะหันมาให้ความส าคัญ
กับการพัฒนามนุษย์ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 การให้ความส าคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลักท าให้
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 และ 2 มีการจัดสรรงบประมาณจ านวนมากรวมทั้งกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้าง
พื้นฐานทางเศรษฐกิจ อาทิ การพัฒนาระบบการคมนาคมและขนส่งทั่วประเทศเพื่อเชื่อมโยงระหว่าง
ภูมิภาคและเมือง การพัฒนาระบบโทรคมนาคม การพัฒนาพลังงานไฟฟ้า การสร้างโรงเรียน
มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลประจ าอ าเภอ การเปิดรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รวมทั้ง
ก าหนดให้การเพิ่มขึ้นของรายได้ประชาชาติเป็นจุดหมายของการพัฒนาประเทศ ดังข้อความตอนหนึ่งใน
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ความว่า
ในระยะของการปฏิบัติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ได้
มีการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมในอัตราที่สูงมาก ดังจะเห็นได้ว่าได้มีอุตสาหกรรมใหม่ ๆ
เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้า อีเลคโทรนิค โรงกลั่นน้ ามัน ยางรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง เสื้อผ้า
ส าเร็จรูป กระดาษ เหล็ก นมข้นหวาน ประกอบรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ตลอดจนอุตสาหกรรมจากไม้ เครื่องเรือน เครื่องประดับ อัญมณี เป็นต้น เป็นที่ประจักษ์ชัด
เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 37