Page 24 - ED211
P. 24

5
                   ครั้งส าคัญ  หรือเกิดฟิสิกส์ยุคใหม่  (Modern Physics)  เพราะทฤษฎีทั้งสองน ามาซึ่งทัศนะในการมอง
                   โลกและวิธีคิดชุดใหม่  ดังข้อความตอนหนึ่งในบทความเรื่อง สัมพันธภาพและควอนตัม (บัญชา ธนบุญ

                   สมบัติ.  2553: 157-159) ที่ว่า


                               ทฤษฎีสัมพันธภาพและทฤษฎีควอนตัมบอกให้เรารู้ว่าความเป็นจริงของธรรมชาติในบาง

                               แง่มุมนั้นไม่เหมือนกับที่เราคิดและคุ้นเคย  เราคุ้นเคยกับโลกทัศน์และวิธีคิดในลักษณะที่
                               เห็นสิ่งทั้งหลายอยู่อย่างตายตัวและแยกส่วน  แต่ทฤษฎีสัมพันธภาพที่ไอน์สไตน์ค้นพบบอก

                               เราว่า  สรรพสิ่งต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง.....ทฤษฎีสัมพันธภาพยังได้เชื่อมโยง

                               ปริมาณทางกายภาพ 2 อย่างที่ดูประหนึ่งว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเข้าด้วยกัน  นั่นคือ มวล
                               สาร (Mass)  และพลังงาน (Energy) .....ส่วนทฤษฎีควอนตัม.....น าไปสู่การค้นพบว่า

                               อนุภาคอาจจะเป็นรูปธรรมและนามธรรมได้ในขณะเดียวกัน  เช่น  อิเล็กตรอนอาจจะ

                               ประพฤติตัวเป็นอนุภาคหรือเป็นวัตถุ  คือ มีน้ าหนัก  แต่ในขณะเดียวกัน  อาจจะเป็นคลื่น
                               ไม่มีน้ าหนัก   จะเป็นอะไรยังสุดแต่เครื่องวัดอีกด้วย...ประเด็นก็คือ  สิ่งที่ถูกสังเกต (The

                               Observed)  กับผู้สังเกต  (The Observer) มีการติดต่อสื่อสารกัน  ไม่ได้แยกกันอย่าง

                               ตายตัว  วิทยาศาสตร์ (เก่า) เคยเชื่อว่าจะสามารถสังเกตหรือวัดสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างวัตถุวิสัย
                               คือ โดยเครื่องวัดหรือผู้วัดไม่มีอิทธิพลต่อสิ่งที่วัดได้  แต่วิทยาศาสตร์ใหม่บอกว่าไม่จริง  สิ่งที่

                               ถูกสังเกตกับผู้สังเกตมีปัจจยาการต่อกัน  ค าถามก็คือ  วัตถุหนึ่งสามารถติดต่อกับวัตถุอื่นได้

                               อย่างไร  วัตถุมีจิตหรือ  เดิมคิดว่าวัตถุกับจิตแยกจากกัน   วิทยาศาสตร์ใหม่บอกว่าอาจ
                               เกี่ยวข้องกัน  วิทยาศาสตร์ใหม่จึงท าให้เกิดความสนใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับ

                               วิทยาศาสตร์ซึ่งเดิมเคยคิดว่าเป็นคนละเรื่อง  ไม่เกี่ยวข้องกัน


                   สรุป

                               การปฏิวัติวิทยาศาสตร์อันเป็นผลจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป

                   ในช่วงระหว่าง ค.ศ.1500-1750  ท าให้ทัศนะในการมองโลกและมองชีวิตของคนส่วนใหญ่ทั้งโลกตะวันตก

                   และตะวันออกเปลี่ยนแปลงไป  เพราะโลกถูกมองเป็นเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง  ไม่มีชีวิต และไม่มีจิตวิญญาณ
                   ทัศนะดังกล่าวเป็นผลให้การแสวงหาความรู้ของมนุษย์เป็นไปเพื่อคาดการณ์ ควบคุม และจัดการธรรมชาติ

                   ซึ่งมีฐานะเป็นทรัพยากรธรรมชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์  ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

                   ในช่วงเวลาดังกล่าวยังท าให้เชื่อว่าปรากฏการณ์อันสลับซับซ้อนสามารถท าความเข้าใจได้  โดยการลดส่วน



                               5  ฟิสิกส์ยุคใหม่  เป็นชื่อเรียกวิชาฟิสิกส์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นราวต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา  โดยทฤษฎีต่าง ๆ ที่ใช้
                   อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติจะมีกรอบและวิธีการคิดที่แตกต่างจากทฤษฎีที่มีมาก่อนหน้านั้นเป็นอย่างมาก (บัญชา ธนบุญสมบัติ.
                   2553: 164)



                                                       เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 18
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29