Page 29 - ED211
P. 29
ปลาก็จะลึกตามไปด้วย เวลาจับปลาต้องด าน้ า ดังนั้นพรานปลาที่หาปลาบริเวณแก่งจมจึงต้องมีความ
เชี่ยวชาญในการด าน้ าเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนแก่งที่จับปลาง่ายจะเป็นแก่งที่มีก้อนหินโผล่ขึ้นพ้นน้ าสูงและมีเนิน
เรียบ การจับปลาบริเวณนี้จึงเพียงน าตาข่ายไปปักรอที่ปากถ้ าเท่านั้น นอกจาก“รู้วิธีหาของแก่ง” แต่ละ
แก่งแล้ว คนหาปลาที่มีความช านาญยังรู้อีกด้วยว่าปลาแต่ละชนิดพันธุ์อาศัยอยู่ในบริเวณใด เช่น ถ้า
เวินลึกมากจะมีปลาขนาดใหญ่ที่สุดอาศัยอยู่ เช่น ปลากะมัน ปลาบึก ปลาเลิ่มหรือปลาเทพา และ
บริเวณใดมีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม รวมทั้งยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับนิสัยของปลาด้วย เช่น ชอบกินอาหาร
อะไร กินอาหารเวลาใด ชอบนอนที่ไหน มีวิธีนอนอย่างไร ตื่นเวลาใด ความรู้เกี่ยวกับนิสัยของปลาจะ
ช่วยให้สามารถจับปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนฤดูกาลอพยพของปลาน้อยใหญ่ คนหาปลาต่างรู้ว่า
ไม่ได้ก าหนดตายตัว จึงอาศัยการสังเกตจากธรรมชาติ เช่น สีของน้ า ลักษณะท้องฟ้า และพฤติกรรมของ
สัตว์บางชนิด เช่น นกเค้าอ่านคอน นอกจากจะอาศัยธรรมชาติในการคาดเดาเวลาในการอพยพแล้ว
ชาวบ้านยังรู้ว่าปลาจะว่ายทวนน้ าเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพของน้ า เพราะถ้าน้ าในแม่น้ ามูนใส ปลาจะ
ว่ายทวนน้ าขึ้นไปวางไข่อย่างรวดเร็ว แต่หากน้ าในแม่น้ าขุ่น ปลาจะว่ายทวนน้ าช้าลง โดยทั่วไปในช่วง
ฤดูวางไข่นี้ ปลามักจะว่ายทวนน้ าขึ้นไปยังต้นน้ าอย่างรวดเร็วยกเว้นปลาหัวปี นอกจากนั้นพรานปลาที่มี
ความช านาญยังรู้เส้นทางของปลาหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“แปวปลา” อีกด้วย เขาจะรู้ว่าเวลาปลาขึ้น
ปลาแต่ละชนิดจะว่ายทวนน้ าผ่านเกาะแก่งบริเวณใด และจะไปแวะพักที่ใด การรู้ว่าปลาชนิดพันธุ์ใด
และขนาดใดก าลังจะว่ายทวนน้ าจากแม่น้ าโขงเพื่อขึ้นมาวางไข่ จะช่วยในการเลือกใช้เครื่องมือจับปลาได้
อย่างเหมาะสม นอกจากความรู้ดังกล่าวแล้ว คนหาปลาที่มีความช านาญยังมีความสามารถในการท า
เครื่องมือส าหรับการจับปลาด้วย พรานปลาที่มีความเชี่ยวชาญทราบว่าตนเองท าเครื่องมือได้ดีหรือไม่เมื่อ
น าเครื่องมือเหล่านั้นมา“ลองผิดลองถูก” ถ้าเครื่องมือจับปลาได้ไม่ดี ก็จะน าเครื่องมือมาปรับปรุงใหม่
นอกจากจะรู้วิธีการท าเครื่องมือแล้ว พรานปลายังรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย เช่น
มองไหล(ข่ายไหล) ใช้บริเวณที่น้ าลึกและน้ าไหล ไม่มีไม้และแก่งหิน ส่วนมองซ า (ข่ายดัก) ใช้ช่วงน้ าขึ้น
บริเวณที่น้ านิ่ง ดักบริเวณที่คาดว่าปลาจะผ่าน มองทั้งสองประเภทนี้ใช้ดักปลาที่โผล่ขึ้นมาหายใจเหนือ
น้ า เช่น ปลาช่อน ปลาขาว ปลากระสูบ ช้อนตักปลาใช้ตักปลาช่วงหน้าปลาขึ้นในเดือนแรก ๆ ช่วงน้ า
หลากใหม่ เพราะปลามารวมกันบริเวณโขดหิน และเบ็ดราวใช้ช่วงน้ าหลาก เป็นต้น
นอกจากความรู้ดังกล่าวแล้ว คติดั้งเดิมที่ว่าต้องหาปลาเท่าที่จ าเป็นส าหรับด ารงชีวิตเท่านั้น
ยังหลอมรวมอยู่ในความรู้ที่ถ่ายทอดสู่ลูกหลานด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรู้ในการหาปลาของชาวบ้าน
ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นบนฐานของการจัดความสัมพันธ์กับธรรมชาติในเชิงพึ่งพาและผูกพัน การ“อนุรักษ์
ไปในโต” ท าให้ปลาในล าน้ ายังคงมีปลาอยู่อย่างหลากหลายชนิดพันธุ์และอยู่รอดเลี้ยงเผ่าพันธุ์ของ
ชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ดังค ากล่าวที่ว่า“บ่หมดจักเทื่อ ชนิดนั้นบ่เห็น ชนิดนี้บ่เห็น บ่เคยมี ได้คู้ปี
ปลาที่เฮาเคยจับได้” การอนุรักษ์และการหาปลาเป็นสิ่งที่กระท าควบคู่กันไปเสมอจากความรู้เกี่ยวกับ
ระบบนิเวศของแม่น้ า การใช้เครื่องมือในการจับปลา และความหลากหลายของการบริโภคอาหาร
เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 23