Page 28 - วารสารสุขภาพ สำนักอนามัย ปีที่ 6 ฉบับที่ 1
P. 28

ยาและสมุนไพร


                        ควรท�ำอย่ำงไร... ถ้ำจ�ำเป็นต้องกิน

                                           ยำปฏิชีวนะ




                                                                                 ศิริภัทร เฑียรกุล
                                                                                 เภสัชกรปฏิบัติการ
                                                                                 กองเภสัชกรรม
                                                                                 ส�านักอนามัย กรุงเทพมหานคร


                  ยาปฏิชีวนะ เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ เช่น เพนนิซิลิน อะม็อกซีซิลลิน เป็นต้น
           ส่วนยาแก้อักเสบหรือยาต้านการอักเสบ เป็นยาที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ บรรเทาอาการปวด ลดบวม ไม่มีฤทธิ์ฆ่า
           เชื้อแบคทีเรีย เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน เป็นต้น คนส่วนใหญ่มักเรียก ยาปฏิชีวนะ ผิดว่าเป็น ยาแก้อักเสบ

           เพราะเมื่อติดเชื้อแบคทีเรียแล้วกินยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะจะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค เมื่อเชื้อตายไป
           อาการอักเสบจะลดลง

                  การกินยาปฏิชีวนะให้ได้ผลดี  ควรกินติดต่อกันให้ครบตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะน�า  หากหยุดกินยาปฏิชีวนะ
           ก่อนครบก�าหนดหรือกินยาไม่สม�่าเสมอ  จะท�าให้ปริมาณยาในร่างกายไม่เพียงพอที่จะก�าจัดเชื้อต่างๆ  ให้หายขาด
           เชื้อจะแบ่งตัวเพิ่มจ�านวน เกิดการเป็นซ�้า เและเสี่ยงต่อการติดเชื้อใหม่ได้สูง หรืออาจท�าให้เกิดการดื้อยาได้


                  ปัจจุบันมีการรณรงค์ 3 โรค ที่หายเองได้  โรคและบริเวณที่ติดเชื้อได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึง
           โดยไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ ได้แก่              การซักประวัติเกี่ยวกับการแพ้ยาและเลือกชนิดของ
                  1.  โรคหวัด-เจ็บคอ การพักผ่อนและท�าร่างกาย  ยาปฏิชีวนะที่จะไม่ท�าให้เกิดการแพ้ซ�้าได้
           ให้อบอุ่น ช่วยท�าให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายแข็งแรง       เชื้อส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อธรรมดาที่ไม่ดื้อยา

           ท�าให้หายป่วยเร็วขึ้น                        แต่จะมีเชื้อแบคทีเรียจ�านวนหนึ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
                  2.  โรคท้องเสีย 99% เกิดจากเชื้อไวรัส อาหาร   ทางพันธุกรรม ส่งผลให้เชื้อเกิดการดื้อยาขึ้น การใช้ยา
           เป็นพิษ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยากและนม การดื่ม   ชนิดเดิมหรือขนาดเดิมไม่สามารถที่จะใช้รักษาได้
           น�้าเกลือแร่ช่วยให้หายได้                    อาจต้องเพิ่มขนาดยาหรือระยะเวลาในการรักษาหรือ

                  3.  แผลเลือดออก ที่เกิดจากมีดบาด แผลถลอก   แม้กระทั่งต้องเปลี่ยนชนิดของยาฆ่าเชื้อเป็นยาฆ่าเชื้อ
           ถ้าท�าความสะอาดอย่างถูกวิธีและป้องกันไม่ให้แผล   กลุ่มอื่นแทน ซึ่งอาจเป็นยากลุ่มที่ควรจะเก็บไว้ใช้ส�าหรับ
           โดนน�้า แผลก็จะหายเองได้                     การติดเชื้อที่รุนแรง ท�าให้ในอนาคตหากเกิดการติดเชื้อ
                  การกินยาปฏิชีวนะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ   ที่รุนแรงจะท�าให้โอกาสที่เชื้อจะดื้อยาตัวใหม่เพิ่มขึ้น

           การดื้อยาได้ ดังนั้น หากเกิดอาการเจ็บป่วย ไม่ควร   และยังท�าให้เหลือจ�านวนตัวเลือกยาฆ่าเชื้อที่มี
           หายามากินเองหรือกินยาปฏิชีวนะของคนอื่น เพราะ  ประสิทธิภาพในการรักษาน้อยลง  นอกจากนี้การได้รับ
           ชนิดของยาที่เหมาะสมในการรักษาอาจไม่เหมือนกัน    ยาฆ่าเชื้อในอาการหรือโรคที่ไม่ได้มีการติดเชื้อ
           ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้ช่วยประเมินอาการ   แบคทีเรียเป็นการใช้ยาฆ่าเชื้อที่

           และความจ�าเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะ  หากอาการหรือโรค   ไม่เหมาะสมจะเป็นสาเหตุหนึ่ง
           ที่เป็นมีความจ�าเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะจริง แพทย์หรือ   ของการดื้อยาได้เช่นกัน
           เภสัชกรจะสามารถเลือกชนิดของยาปฏิชีวนะให้ตรงกับ




      28   วารสารสุขภาพ
           ส�านักอนามัย
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32