Page 39 - ทักษะการเรียนรู้ (ทร21001) ม.ต้น
P. 39
31
เรื่องที่ 3 ทักษะพื้นฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหา
และเทคนิคการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ค าถามธรรมดา ๆ ที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ท าอย่างไรเราจึงจะสามารถฟังอย่างรู้เรื่อง
และคิดได้อย่างปราดเปรื่อง อ่านได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนเขียนได้อย่างมืออาชีพ ทั้งนี้ ก็เพราะเราเข้าใจ
กันดีว่า ทั้งหมดนี้เป็นทักษะพื้นฐาน (basic skills) ที่ส าคัญ และเป็นความสามารถ (competencies) ที่
จ าเป็นส าหรับการด ารงชีวิตทั้งในโลกแห่งการท างาน และในโลกแห่งการเรียนรู้
การฟัง เป็นการรับรู้ความหมายจากเสียงที่ได้ยิน เป็นการรับสารทางหู การได้ยินเป็นการเริ่มต้น
ของการฟังและเป็นเพียงการกระทบกันของเสียงกับประสาทตามปกติ จึงเป็นการใช้ความสามารถทาง
ร่างกายโดยตรง ส่วนการฟังเป็นกระบวนการท างานของสมองอีกหลายขั้นตอนต่อเนื่องจากการได้ยิน
เป็นความสามารถที่จะได้รับรู้สิ่งที่ได้ยิน ตีความและจับความสิ่งที่รับรู้นั้นเข้าใจและจดจ าไว้ ซึ่งเป็น
ความสามารถทางสติปัญญา
การพูด เป็นพฤติกรรมการสื่อสารที่ใช้กันแพร่หลายทั่วไป ผู้พูดสามารถใช้ทั้งวจนะภาษาและ
อวัจนะภาษาในการส่งสารติดต่อไปยังผู้ฟังได้ชัดเจนและรวดเร็วการพูด หมายถึง การสื่อความหมายของ
มนุษย์โดยการใช้เสียง และกิริยาท่าทางเป็นเครื่องถ่ายทอดความรู้ความคิด และความรู้สึกจากผู้พูดไปสู่
ผู้ฟัง
การอ่าน เป็นพฤติกรรมการรับสารที่ส าคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการฟัง ปัจจุบันมีผู้รู้นักวิชาการ
และนักเขียนน าเสนอความรู้ ข้อมูล ข่าวสารและงานสร้างสรรค์ ตีพิมพ์ ในหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ มาก
นอกจากนี้แล้วข่าวสารส าคัญ ๆ หลังจากน าเสนอด้วยการพูด หรืออ่านให้ฟังผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะ
ตีพิมพ์รักษาไว้เป็นหลักฐานแก่ผู้อ่านในชั้นหลัง ๆ ความสามารถในการอ่านจึงส าคัญและจ าเป็นยิ่งต่อการ
เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในสังคมปัจจุบัน
การเขียน เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของบุคคลออกมาเป็นสัญลักษณ์
คือ ตัวอักษร เพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจจากความข้างต้น ท าให้มองเห็นความหมายของการเขียน
ว่ามีความจ าเป็นอย่างยิ่งต่อการสื่อสารในชีวิตประจ าวัน เช่น นักเรียนใช้การเขียนบันทึกความรู้ ท า
แบบฝึกหัด และตอบข้อสอบบุคคลทั่วไป ใช้การเขียนจดหมาย ท าสัญญา พินัยกรรมและค ้าประกัน เป็น
ต้น พ่อค้าใช้การเขียนเพื่อโฆษณาสินค้า ท าบัญชี ใบสั่งของ ท าใบเสร็จรับเงิน แพทย์ใช้บันทึก ประวัติ
คนไข้ เขียนใบสั่งยาและอื่น ๆ เป็นต้น