Page 91 - พท21001
P. 91

82


                         ตราบขุนคีรีขน               ขาดสลาย แลแม
                  รักบหายตราบหาย                     หกฟา

                         สุริยันจันทรขจาย            จากโลก ไปฤา
                  ไฟแลนลางสี่หลา                   หอนรางอาลัย

                                                                            (นิราศนรินทร)

                         โอวาอนิจจาความรัก          เพิ่งประจักษดั่งสายน้ําไหล
                  ตั้งแตจะเชี่ยวเปนเกลียวไป         ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา

                                                                            (อิเหนา)

                         รักชาติยอมสละแม             ชีวี
                  รักเกียรติจงเจตนพลี                ชีพได

                  รักราชมุงภักดี                     รองบาท

                  รักศาสนรานเศิกไส                  กอเกื้อพระศาสนา
                                                                            (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ)


                  มีใจรัก

                         การจะทํากิจกรรมใด ๆ ก็ตาม ถาจะใหไดผลดีจะตองมีใจรักในสิ่งนั้น เรียกวา มีความรัก
                  ความพอใจที่จะเขียน หมั่นฝกฝนบอย ๆ มีความเขาใจที่จะเขียนใหไดดี และเมื่อเขียนแลวก็กลับมา

                  ทบทวนพิจารณาถึงคุณคาและประโยชนที่ไดจากการเขียน และการจะเขียนใหผูอื่นอานพิจารณาดวย

                  ใจเปนธรรมและดวยเหตุดวยผล  ที่เรียกวาตองมีอิทธิบาท 4  อันเปนธรรมะของผูรักความเจริญกาวหนา
                  เปนเรื่องนํา นั้นคือ มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ  และวิมังสา


                  เห็นประโยชน

                         การที่ผูเขียนจะเขียนหนังสือใหผูอื่นอานและอานสนุกหรืออานดวยความพอใจ  ผูเขียน

                  ตองตระหนักรูในตนเองเสียกอนวาเปนผูมีความรูทางภาษาไทยเพียงพอที่จะกอใหเกิดประโยชนแกตน
                  ในดานตาง ๆ เชน ชวยใหติดตอสื่อสารกับผูอื่นไดอยางมีประสิทธิภาพ มีความเชื่อมั่นในตนเอง สามารถ

                  ใชความรูที่มีเพื่อประโยชนแกผูอื่นได และมีความพรอมที่จะขยายความรูหรือขอมูลที่สะสมในตนเอง

                  ใหผูอื่นอานไดอันจะเปนชองทางของการแลกเปลี่ยนขาวสารขอมูลระหวางกัน ซึ่งจะสงผลใหขอมูล
                  ขาวสารและความรูตาง ๆ ที่มีขยายออกไปอยางกวางขวาง ทําใหความรูที่มีอยูในโลกไมสูญหายไปได

                  งาย ๆ

                         การกระทําใด ๆ  ก็ตาม  ในทางจิตวิทยากลาววา  ถาทําซ้ํา ๆ  ทําบอย ๆ  การกระทํานั้น ๆ
                  จะกลายเปนนิสัย การหมั่นฝกฝนการเขียน ไมวาจะเขียนอะไรก็ตาม ก็ตองหมั่นฝกฝนใหเกิดเปนนิสัย

                  ขึ้นมาใหได อาจเริ่มจากการฝกฝนบันทึกขอความ หรือเรื่องราวที่ชื่นชอบหรือที่เปนความรู  ฝกเขียน
                  บันทึกประจําวัน  ฝกเขียนเรียงความจากเรื่องใกลตัว เรื่องที่ตัวเรามีความรูมากที่สุด มีขอมูลมากที่สุด

                  กอน แลวคอย ๆ เขียนเรื่องที่ไกลตัวออกไป โดยเขียนเรื่องที่อยากเขียนกอนแลวขยายออกไปสูเรื่องที่
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96