Page 96 - พท21001
P. 96

87


                  การเขียนรายงานการคนควา

                         การเขียนรายงานเปนการเขียนเนื้อหาทางวิชาการที่ไดศึกษาคนความาเปนอยางดี

                  และเรียบเรียงอยางมีระเบียบแบบแผน  ทําใหเกิดความรูสึกความเขาใจเรื่องที่ศึกษาดียิ่งขึ้น

                         สวนประกอบของรายงาน มี 3 สวน  คือ
                         1.  สวนนํา  กลาวถึง  วัตถุประสงค และขอบเขตรายงานเรื่องนี้

                         2.  สวนเนื้อเรื่อง  กลาวถึง สาระสําคัญของเรื่องอยางละเอียด ทําใหผูอานมีความเขาใจวาใคร
                  ทําอะไร ที่ไหน เมื่อไร ทําไม และมีขั้นตอนในการทําอยางไร

                         3.  สวนสรุป กลาวถึง ผลของการดําเนินงาน รวมทั้งขอเสนอแนะ หรือ ความคิดเห็นที่เปน

                  ผลจากการกระทํานั้นดวย
                         ลักษณะของรายงานที่ดี

                         1.  ขอมูลเชื่อถือได มีแหลงอางอิงชัดเจน
                         2.  สอดคลองกับจุดมุงหมายที่ตั้งไว

                         3.  มีรายละเอียดครบถวน

                         4.  มีการใชตาราง แผนภูมิ ภาพประกอบ ฯลฯ  ที่ชวยใหเขาใจงาย
                         5.  มีวิธีการเรียนที่นาอาน

                         6.  เนื้อหาทันสมัย  ทันเหตุการณ

                         ขั้นตอนในการเขียนรายงาน
                         1.  เลือกเรื่อง เปนเรื่องที่ผูเขียนมีความรู หรือสนใจเปนพิเศษ มีแหลงขอมูล เปนประโยชนแกผูอาน

                         2.  กําหนดจุดมุงหมายของรายงาน  ตองกําหนดใหชัดเจนและสามารถเขียนใหเกิดผลตาม

                  จุดมุงหมายได
                         3.  กําหนดขอบเขตของเรื่อง โดยใหสัมผัสกับจุดมุงหมาย

                         4.  ทําโครงเรื่อง เพื่อชวยใหรายงานมีการจัดหัวขออยางเปนลําดับไมสับสน และมีประเด็น
                  เนื้อเรื่องที่จะเขียนครบถวน

                         โครงเรื่องจะประกอบดวย ความนํา หัวขอใหญและหัวขอยอย การแบงหัวขอมีหลัก ดังนี้

                         1.  เรียงลําดับหัวขอใหญ และจัดแบงหัวขอใหดี อยาใหมีหัวขอยอยที่ไมเกี่ยวของเขาไปปะปน
                  อยูในหัวขอใหญ

                         2.  การใชชื่อหัวขอยอย  ไมควรยาวเกินไป  ควรใชใหกะทัดรัด  ใจความครอบคลุมเนื้อหา
                  ตอนนั้น ๆ โดยเฉพาะ

                         3.  ไมควรแบงเนื้อเรื่องออกเปนหัวขอยอยๆ มากเกินไป

                         4.  แตละหัวขอในโครงเรื่องจะตองมีความสัมพันธตอเนื่องกันโดยลําดับในการจัดเรียงลําดับ
                  หัวขอ อาจทําไดหลายวิธี  เชน  เรียงตามลําดับเวลาหรือตามความสัมพันธระหวางหัวขอ โดยดูลักษณะ
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101