Page 63 - JMSD VOL.1 No.1 2016 _Neat
P. 63

Journal of MCU Social Development
        Vol.1 No.1 January - April 2016



        ละเมิดทางจริยธรรม และส่งผลกระทบหรือความเสียหายต่อประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ
        (กิตติพศ กำาเนิดฤทธิ์, 2550 :14) หรือสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐมีผลประโยชน์ส่วนตัว ขณะเดียวกันได้ใช้

        อำานาจอิทธิพลที่ตนมีตามอำานาจหน้าที่และความรับผิดชอบทางสาธารณะไปขัดกับผลประโยชน์ส่วนตัว
        หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมนั้นเอง (จุมพล
        หนิมพานิช, 2554 : 760) หรือเป็นความขัดแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมหรือผล

        ประโยชน์ทับซ้อนในการเมืองการปกครอง โดยการละเมิดกฎหมายและจริยธรรม ทำาให้ละทิ้งคุณธรรมใน
        การปฏิบัติหน้าที่สาธารณะ ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ (ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์, 2558 : 14) หรือ

        เป็นสภาวะซึ่งการกำาหนดนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของสังคมโดยรวม หรือการตัดสินใจทางการเมืองถูก
        แทรกแซงด้วยผลประโยชน์เฉพาะของบริษัทธุรกิจเอกชน (ผาสุก พงษ์ไพจิตร, 2548 : 6)
               สรุปได้ว่า การขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือผลประโยชน์ทับซ้อน คือ การที่เจ้าหน้าที่รัฐผู้ที่มีอำานาจ

        หน้าที่ในการตัดสินใจขาดความซื่อสัตย์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ หวังผลประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้องมากว่าผล
        ประโยชน์ส่วนรวม ทำาให้เกิดผลเสียหายต่อประชาชนและต่อประเทศชาติ ทั้งนี้ การขัดกันแห่งผลประโยชน์

        จะไม่เกิดถ้าหากเจ้าหน้าที่รัฐมีคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติราชการ


        องค์ประกอบของการขัดกันแห่งผลประโยชน์

               จากที่กล่าวถึงความหมายของ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ข้างต้น หากพิจารณาในแง่ขององค์
        ประกอบสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 องค์ประกอบ ดังนี้ ประการแรก ผลประโยชน์ส่วนบุคคลหรือผล

        ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นผลประโยชน์ที่มีความเกี่ยวพันกับเงินและทรัพย์สินเป็นประการสำาคัญ
        นอกจากนั้นก็จะเป็นผลประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ทำาให้ผู้ได้รับพึงพอใจ ประการที่สอง การใช้อำานาจหน้าที่
        และดุลพินิจในการตัดสินใจดำาเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และประการสุดท้าย การ

        ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้สถานะและขอบเขตอำานาจหน้าที่ของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือ
        พนักงานของรัฐ โดยขาดหลักจริยธรรมพื้นฐานในวิชาชีพของตน (ธีรภัทร เสรีรังสรรค์, 2549 : 110)



        ประเภทของการขัดกันแห่งผลประโยชน์
               ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือลักษณะความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์

        ส่วนรวมว่ามีอยู่ทั้งหมด 7 ประเภท (John Langfom & Kernaghan, อ้างใน ธีรภัทร เสรีรังสรรค์, 2553
        : 111) ดังนี้

               ประเภทแรก การรับผลประโยชน์ต่างๆ (Accepting Benefits) หมายถึง การรับของขวัญจาก
        บริษัทธุรกิจ บริษัทขายยาหรืออุปกรณ์การแพทย์สนับสนุนค่าเดินทางให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ไปประชุม
        เรื่องอาหารและยาที่ต่างประเทศ หรือหน่วยงานราชการรับเงินบริจาคสร้างสำานักงานจากนักธุรกิจหรือ

        บริษัทธุรกิจที่เป็นลูกค้าของหน่วยงาน หรือแม้กระทั่งในการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อจัดซื้อจัดจ้าง แล้ว




                                                54
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68