Page 1917 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 1917
สำหรับดินปลูกข้าวโพดฝักอ่อนในจังหวัดนครปฐมและกาญจนบุรี พบแคดเมียมอยู่ระหว่าง
0.4 - 0.8 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และตะกั่ว 19.6 - 48.7 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งปริมาณของแคดเมียม
และตะกั่วต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่อนุญาตให้พึงมีในดินทำการเกษตรของกลุ่มสมาพันธ์ยุโรป ขณะที่
ความเข้มข้นของแคดเมียมในข้าวโพดฝักอ่อน (น้ำหนักแห้ง) พบระหว่าง 0.13 - 0.22 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ตะกั่ว nd.-0.23 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งความเข้มข้นของแคดเมียม และตะกั่ว ในข้าวโพดฝักอ่อน
(ส่วนที่บริโภค) มีความเข้มข้นต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่อนุญาตให้พึงมีในพืชอาหารของ Codex
จากการประเมินคุณภาพดิน โดยใช้ความอุดมสมบูรณ์ของดินและระดับความเป็นประโยชน์ของ
จุลธาตุอาหารพืชในดิน มาเป็นดัชนีในการประเมิน พบว่า ดินปลูกมันสำปะหลังในจังหวัดกำแพงเพชร
มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ส่วนในจังหวัดกาญจนบุรีและนครราชสีมา ความอุดมสมบูรณ์ของดินปลูกมัน
สำปะหลัง อยู่ในระดับปานกลาง สำหรับแมงกานีสที่เป็นประโยชน์ในดิน มีปริมาณพอเพียงกับความ
ต้องการของพืช ขณะที่จุลธาตุพวกเหล็ก ทองแดง และสังกะสี ที่เป็นประโยชน์ในดินปลูกมันสำปะหลัง
ในจังหวัดกำแพงเพชร กาญจนบุรี และ นครราชสีมา มีในปริมาณที่ไม่พอเพียงกับความต้องการของพืช
ดังนั้นหากพืชที่ปลูกมีความไวต่อการขาดจุลธาตุดังกล่าว จะทำให้พืชแสดงอาการขาดได้ ส่วนคุณภาพดิน
ปลูกข้าวโพดฝักอ่อนในจังหวัดนครปฐมและกาญจนบุรี มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับปานกลาง จุลธาตุ
อาหารพืช มีในปริมาณที่พอเพียงกับความต้องการของพืช ยกเว้นดินปลูกข้าวโพดฝักอ่อนในจังหวัดกาญจนบุรี
ที่มีปริมาณเหล็กที่เป็นประโยชน์ในดินไม่พอเพียงกับความต้องการของพืช
6. การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
ใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดเกณฑ์พื้นฐานของปริมาณโลหะหนักในดิน ในพื้นที่การเกษตรของประเทศ
ตลอดจนเป็นข้อมูลทางวิชาการเพื่อใช้ป้องกันไม่ให้ดินเสื่อมโทรม เนื่องจากการปนเปื้อนของโลหะหนัก
ตลอดจนวางแผนในการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังในพื้นที่มีความเสี่ยง เพื่อการแก้ไขปัญหาการ
ปนเปื้อนของโลหะหนักในดินและผลิตผลของพืชต่อไป
1850