Page 2098 - บทคดยอการทดลองสนสด 58 สมบรณ_Neat
P. 2098
รายงานผลการทดลองสิ้นสุด ปี 2558
1. ชุดโครงการวิจัย การเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร
2. โครงการวิจัย วิจัยและพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่จากพืช
3. ชื่อการทดลอง ศึกษาผลของเชื้อ Oenococcus oeni ต่อการหมักกรดแลคติกใน
กระบวนการผลิตไวน์ในประเทศเขตร้อนชื้น
Studies of Oenococus oeni in Malo - Lactic Fermentation
in Tropical Vinification
1/
4. คณะผู้ดำเนินงาน โกเมศ สัตยาวุธ พัชรี ลิมปิษเฐียร 1/
วิไลศรี ลิมปพยอม วิมลวรรณ วัฒนวิจิตร 1/
1/
อกนิษฐ์ พิศาลวัชรินทร์ 1/
5. บทคัดย่อ
องุ่นสายพันธ์เศรษฐกิจในประเทศไทยมี 4 สายพันธ์ที่มีศักยภาพสูงในอุตสาหกรรมไวน์ ได้แก่
องุ่นแดงชีราจ องุ่นขาวโคลัมบาท องุ่นแดงป็อกดำ และองุ่นขาวไวท์มะละกา และคุณภาพและประสิทธิภาพ
การหมักไวน์ขององุ่นที่แตกต่างกัน การทดลองนี้จึงมุ่งพัฒนากรรมวิธีการผลิตไวน์องุ่น โดยการศึกษา
การหมักกรดแลกติกที่มีคุณภาพ เพื่อศึกษาจุลินทรีย์ที่เหมาะสมในการหมักและปัจจัยที่เหมาะสม
ดำเนินการวิจัยที่กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร ระหว่างปี
2556 - 2558 ในองุ่นทั้ง 4 สายพันธ์ โดยประสิทธิภาพการผลิต volatile phenol ของจุลินทรีย์
ที่มีศักยภาพในการหมักกรดแลคติกและ Oenococcus oeni ถือเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ผลิตผลิตภัณฑ์
ที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างการหมัก อุณหภูมิที่สูงกว่า 30 องศาเซลเซียส จะส่งผลต่อการผลิตกรดแลคติก
ของแบคทีเรียและปริมาณแอลกอฮอล์ในไวน์ที่ไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการ
ผลิตกรดแลคติก และการเจริญเติบโตของเซลล์จะมีการเพิ่มขึ้นรวดเร็วในสัปดาห์แรกและค่อยๆ หยุดนิ่ง
จนลดลงหลังการหมักเสร็จสิ้น ซึ่งเหตุผลสำคัญมาจากจุลินทรีย์จะปล่อยน้ำตาลและกรดสำคัญเพื่อดำรงชีวิต
อยู่ภายใต้ปัจจัยที่ไม่เหมาะสมโดยสังเกตได้จากค่า pH ที่ลดลงอย่างรวดเร็วในระหว่างการหมักและค่อยๆ
เพิ่มขึ้นเมื่อการหมักเสร็จสิ้น ค่าปริมาณแอลกอฮอล์มีค่าแตกต่างกันเล็กน้อยในช่วง 2 สัปดาห์แรก
ของการหมัก ซึ่งยืนยันได้ว่าจะไม่มีการผลิตแอลกอฮอล์ แบคทีเรียแลคติก strain CB5 ที่คัดเลือกมา
และCH35 จะมีการใช้กรด L - malic ไปปริมาณ 0.671 และ 0.572 กรัมต่อลิตร ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะทำให้
กรด L - lactic มีค่าสูงขึ้นจากการหมักโดย CB5 จะมีอัตราการผลิตกรด L - lactic ที่ 0.537 กรัมต่อลิตร
และ CH35 จะมีอัตราการผลิตที่ 0.253 กรัมต่อลิตร สำหรับปริมาณ D - glucose และ D - fructose
_______________________________________________
1/ กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร
2031