Page 161 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 161
137
ต่อกันก็เป็นคลื่นจิตแบบ ทะลุปรุโปร่งชัดแจ ้ง ว่า
หยาบๆ ธรรมดา ว่ามีโลกสามโลก คือโลก
หยาบโลกละเอียด และโลก
2) โลกละเอียด หมายถึง ว่างหรือเรียกอีกอย่างว่ามี
จิตของผู้ที่อยู่ในสมาธิ ภาวนา สภาวะคลื่นจิตหยาบ
สมถะ วิปัสสนา อรูป เทพ สภาวะคลื่นจิตละเอียด และ
เทวดาโอปปาติกะ ฯลฯ มีทั้งที่ สภาวะที่ไม่มีจิต ไม่มีคลื่นจิต
เป็นพลังงานลบ และพลังงาน
บวกมีคลื่นจิตที่ละเอียดกว่า 1) ซ ้ อนกันอยู่ทั้งสามสภาวะ
คลื่นหยาบธรรมดา และคลื่น ในเวลาเดียวกัน
จิตที่ละเอียดนั้นก็มีความ
ละเอียดมากน้อยขึ้นอยู่กับ 2) โดยรู้และตระหนักอย่าง
ภูมิธรรม ได ้แก่การใช ้ ฤทธิ์ เด็ดขาดอยู่ตลอดเวลา ว่าสอง
อภิญญากสิณ มโนมยิทธิ ฯลฯ โลกแรกมีสภาวะเป็นมายา ไม่
แต่ทั้งหมด ก็มีสภาพ มีตัวตนจริง
เป็นมายา ไม่มีตัวตนจริง
3) ส่วนโลกลําดับที่สาม
3) โลกว่าง หรือโลกว่างแท ้ คือโลกว่าง หรือโลกว่างแท ้
หรือโลกจริงแท ้... จึงจะเป็นโลกแท ้จริง...
ก็คือความว่างแท ้ หรือ คือความว่างแท ้ หรือธรรมชาติ
ธรรมชาติแท ้ตามความหมาย แท ้ที่ว่างเปล่า ไม่มีรูปนาม ไม่
ของทางๆนี้ นั่นเอง มีอะไรเลยซึ่งโลกว่างแท ้นี่
ก็คือ ในความว่างแท ้ มันไม่มี แหละ ที่เราสามารถ
จิตไม่มีคลื่นจิต ไม่มีพลังงาน จะนํามาใช ้ ให ้เป็นประโยชน์ใน
ใดๆไม่มีรูปนามใดๆ แม ้แต่ การบําบัดรักษาหรือในการอื่น
ปรมาณูเดียว ใด ได ้มากที่สุด.
หรืออนุภาคเดียว
●การที่รู้ตัวทั่วพร ้อมเช่นนี้
●เมื่อผู้ใดใช ้ พลังจิตว่างแท ้ได ้ เป็นวสีแห่งความว่างแท ้
สูงสุดและลื่นไหลคล่องตัว อย่างหนึ่ง ไปเสริมวสี
หรือที่เรียกว่ามีวสี ตามบทเรียน#113
ก็จะมีความรู้ตัวทั่วพร ้อมอยู่ ทําให ้ให ้มีความสมบูรณ์
ตลอดเวลาในขณะใช ้ พลังจิต มากยิ่งขึ้น คือมีการสลับ
ว่างแท ้มีความรู้ตัวทั่วพร ้อม

