Page 151 - โครงการสื่ออิเล็กทรอนิกส์
P. 151
หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม 148
(1) ความรู้ ความเข้าใจในสิ่งได้ยินได้ฟังมาจากการเล่าเรียน รับการถ่ายทอด ศิลปะ
วิทยาการ อย่างมีประสิทธิภาพ
(2) การรับรู้ ประสบการณ์และเรียนรู้ สิ่งต่างๆ อย่างถูกต้องตามเป็นจริง ไม่บิดเบือน เรือ
อคติด้วยความรัก ความขัง และเพราะความกลัว
(3) การคิดพินิจ พิจารณา วินิจฉัยอย่างมีวิจารณญาณด้วยการใช้ปัญญาที่บริสุทธิ์ อิสระไม่
ถูกกิเลส เช่น ความอยากได้ผลประโยชน์ และความเกลียดชังเข้าครอบง า
(4) การรู้จักมอง รู้จักคิด มีหลักการคิด มีวิธีคิด ที่เข้าถึงความจริง และได้คุณประโยชน์
รู้จักวิเคราะห์แยกแยะ ค้นหาเหตุปัจจัยของสิ่งที่เกิดขึ้น ด ารงตั้งอยู่ และเปลี่ยนแปลงสภาวะไป
(5) การรู้จักจัดการ ด าเนินการ ท ากิจให้ส าเร็จ ฉลาดในวิธีการที่จะน าไปสู่จุดหมาย
(6) มีความสามารถในการแสวงหา เลือกคัดจัดสรรประมวลความรู้ คิดได้ชัดเจน และ
สามารถน าความรู้ที่มีอยู่มาเชื่อมโยง สร้างเป็นเครือข่ายความรู้และสร้างเป็นความรู้ ความคิดใหม่ เพื่อ
ใช้ใน การแก้ปัญหาและสร้างสรรค์
(7) มีความรู้แจ้ง เข้าถึงความจริงของโลกและชีวิตขจัดความทุกข์ในจิตใจของตนเองได้
หลุดพ้นจากความยึดติดในสิ่งทั้งหลาย จิตไม่ถูกบีบคั้น ครอบง ากระทบกระทั่ง ด้วยความผันผวน
ปรวนแปร ของสิ่งต่างๆ หลุดพ้นเป็นอิสระอยู่เหนือกระแสโลก
10. ไตรลักษณ์ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงประกอบอยู่ด้วยลักษณะอันเรียกว่า ไตรลักษณ์ หรือ ลักษณะ 3
ประการ คือ
(1) อนิจจัง แปลว่า ไม่เที่ยง มีความหมายว่า สิ่งทั้งหลายมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอยู่ เสมอไป
ไม่มีความคงที่ตายตัว
(2) ทุกขัง แปลว่า เป็นทุกข์ มีความหมายว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีลักษณะที่เป็นทุกข์ มองดู
แล้วน่าสังเวชใจ ท าให้เกิดความทุกข์ใจแก่ผู้ที่ไม่มีความเห็นอย่างแจ่มแจ้งในสิ่งนั้น ๆ
(3) อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน มีความหมายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความหมายแห่ง ความ
เป็นตัวเป็นตน ไม่มีลักษณะอันใดที่จะท าให้เรายึดถือได้ว่ามันเป็นตัวเราของเรา ถ้าเห็นอย่างแจ่มแจ้ง
ชัดเจนถูกต้องแล้ว ความรู้สึกที่ว่า ไม่มีตน จะเกิดขึ้นมาเองในสิ่งทั้งปวง แต่ที่เราไปหลงเห็นว่าเป็นตัว
เป็นตน นั้น ก็เพราะความไม่รู้อย่างถูกต้องนั้นเอง