Page 12 - ตามรอยพระศาสดา
P. 12

11


               มิได้เป็นอย่างนั้น พระบรมโพธิสัตว์ประสูติจากพระครรภ์ เหมือนพระธรรมกถึก

               ลงจากธรรมาสน์ เหมือนบุรุษลงจากพะอง ทรงเหยียดพระหัตถ์ทั้งสอง
               ประทับยืนอยู่ เป็นผู้บริสุทธิ์สะอาดปราศจากครรภ์มลทิน เสด็จออกจาก
               พระครรภ์รุ่งเรืองสว่างไสว เหมือนแก้วมณีที่วางไว้บนผ้ากาสิกพัสตร์

                     เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้วอย่างนั้น ขณะนั้นมีท่ออุทกธารไหลมา

               จากอากาศ ๒ ท่อ เพื่อโสรจสรงพระโพธิสัตว์และพระมารดาให้ความอบอุ่น
               แก่พระโพธิสัตว์และพระมารดาอย่างดี ครั้นแล้วท้าวมหาราชทั้งสี่พระองค์

               ก็ทรงรับจากพระหัตถ์ท้าวมหาพรหมซึ่งยืนรับอยู่ด้วยข่ายทอง ด้วยหนัง
               ชะมดอันอ่อนนุ่มไม่ระคายพระวรกาย ต่อจากนั้นมนุษย์ก็รับจากมือของ
               ท้าวมหาราชด้วยผ้าละเอียด

                     เมื่อพระบรมโพธิสัตว์ออกจากมือพวกมนุษย์แล้ว ก็ประทับยืน ณ

               ภาคพื้นดินผินพระพักตร์สู่เบื้องบูรพาทิศ หมื่นจักรวาลมีพื้นเนื่องเป็น
               อันเดียวกัน พวกเทวดาและมนุษย์พากันมาบูชาพระโพธิสัตว์เจ้าด้วย

               ของหอมและดอกไม้ ต่างก็พากันกล่าวสรรเสริญพระโพธิสัตว์ว่า “ข้าแต่
               มหาบุรุษ ไม่มีใครอื่นในหมื่นโลกธาตุนี้จะเสมอด้วยพระองค์ หาผู้อื่นยิ่งกว่า
               มิได้แล้ว”


                     ขณะนั้นพระโพธิสัตว์ทรงตรวจดูทิศทั้งสิบ ไม่พานพบผู้เสมอ
               เหมือนแล้ว ก�าหนดว่านี้เป็นทิศอุดรแล้ว เสด็จย่างพระบาทไปเจ็ดก้าว
               ท้าวมหาพรหมถือฉัตรกั้นตามเสด็จ ท้าวสุยามถือพัดวาลวิชนีตามเสด็จ

               ทวยเทพนอกนั้นพากันถือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่เหลือก็เสด็จไปยังประเทศ
               นั้นๆ แล้วหยุดในก้าวที่เจ็ดทรงบันลือสีหนาทเปล่งอาภิสวาจาว่า

                     “เราเป็นยอดของโลก เราเป็นใหญ่แห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐแห่ง

               โลก ความเกิดของเราครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย บัดนี้ความเกิดอีกมิได้มี”
               ดังนี้

                                        ตามรอยพระศาสดา
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17