Page 17 - ตามรอยพระศาสดา
P. 17

16


               ที่ประชุมลงมติขนานพระนามพระราชกุมารว่า “เจ้าชายสิทธัตถะ”

          ซึ่งเป็นมงคลนาม มีความหมายสองนัย นัยหนึ่งหมายความว่า ผู้ทรง
          ปรารถนาสิ่งใดจะส�าเร็จสิ่งนั้นดังพระประสงค์ อีกนัยหนึ่ง หมายความว่า
          พระโอรสพระองค์แรกสมดังที่พระราชบิดาทรงปรารถนา

               พร้อมกันนี้พราหมณ์ทั้งแปดคนนั้น พราหมณ์เจ็ดคนชูนิ้วมือแล้ว

          พยากรณ์คติเป็นสองว่า “คนที่ประกอบด้วยพระลักษณะเช่นนี้ ถ้าอยู่ครอง
          เรือนจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบวชจักได้เป็นพระพุทธเจ้า”

          จึงพรรณนาสิริสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิทั้งหมด แต่ในหมู่พราหมณ์ทั้งแปด
          คนนั้น มีพราหมณ์คนหนึ่งซึ่งหนุ่มกว่าเขาทั้งหมด ชื่อว่า “โกณฑัญญะ” ได้
          ตรวจดูพระลักษณะของพระโพธิสัตว์อย่างละเอียดลออแล้วทราบว่า เหตุที่

          จะให้มหาบุรุษนี้ครองเรือนได้มิได้มี พระมหาบุรุษนี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า
          โดยส่วนเดียวเท่านั้น จึงยกนิ้วมือขึ้นนิ้วเดียวแล้วพยากรณ์ลงเป็นหนึ่ง

          เพราะว่าโกณฑัญญะพราหมณ์ผู้นี้มีกฤษฎาภินิหาร เป็นปัจฉิมภวิกสัตว์ จึง
          ครอบง�าพราหมณ์ทั้งเจ็ดด้วยปัญญา พิจารณาเห็นลงเป็นหนึ่งแน่ว่า เหตุที่
          จะให้ผู้ที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะเช่นนี้อยู่ครองเรือนมิได้มี คนเช่นนี้ต้องเป็น

          พระพุทธเจ้าแน่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นจึงยกนิ้วแล้วพยากรณ์ลง
          เป็นหนึ่ง

               เมื่อพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นกลับไปยังเรือนของตนแล้ว จึงเรียก

          ลูกมาสั่งว่า ลูกรักของพ่อ พ่อแก่แล้ว พ่อจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ทันเห็นพระราช
         กุมารอันเป็นพระราชโอรสของพระสุทโธทนะได้บรรลุพระสัพพัญญุต
         ญาณ เมื่อพระกุมารนั้นบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว พวกเจ้าจงออก

         มาบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นเถิด อยู่ต่อมาพราหมณ์ทั้ง
         เจ็ดคนนั้นก็ดับขันธ์ไปตามยถากรรม





                                  ตามรอยพระศาสดา
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22