Page 22 - ตามรอยพระศาสดา
P. 22

21


                     เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยสมบัติอันยิ่งใหญ่เช่นนั้น วันหนึ่งในหมู่

               พระญาติต่างพูดกันว่า พระสิทธัตถะราชกุมาร มัวแต่เล่นกีฬาอยู่เท่านั้น
               ไม่ทรงศึกษาศิลปะอะไร เมื่อสงครามปรากฏเกิดขึ้นจะท�าอย่างไรกัน

                     พระราชาจึงโปรดให้พระบรมโพธิสัตว์เข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า “ลูกรัก
               ของพ่อ พวกพระญาติต่างพากันพูดว่า สิทธัตถะไม่เล่าเรียนอะไร ได้แต่เล่น

               กีฬาเท่านั้น พ่อจงส�าคัญกาลที่ควรเถิด”

                     พระบรมโพธิสัตว์จึงกราบทูลว่า “ขอเดชะ ไม่มีศิลปะอะไรที่
               ข้าพระบาทจะต้องศึกษาอีกแล้ว ขอพระองค์ได้โปรดให้ประกาศให้

               ชาวพระนครมาชมข้าพระบาทแสดงศิลปะเถิด ตั้งแต่นี้ต่อไปอีกเจ็ดวัน
               ข้าพระบาทจักแสดงศิลปะแก่หมู่พระญาติ

                     พระราชาก็ท�าตามประสงค์ พระบรมโพธิสัตว์โปรดเชิญนายขมัง

               ธนูทั้งสี่ที่มีชื่อ คือ อักขณเวธี ผู้ยิงธนูไวดุจฟ้าแลบ, วาลเวธี ผู้ยิงธนูแม่น
               แม้ขนทรายก็ไม่ผิด, สรเวธี ผู้สามารถยิงสวนลูกธนูที่ยิงมาได้, สัททเวธี
               ผู้ยิงธนูตามเสียงที่ได้ยิน มาประชุมพร้อมกัน แล้วทรงแสดงธนูศิลปะ ๑๒

               ประการ ให้หมู่พระญาติได้ทัศนา ตั้งแต่นั้นหมู่พระญาติก็คลายความสงสัย
               ในพระบรมโพธิสัตว์

                       พระนางพิมพาเป็นผู้หนึ่งในจ�านวน ๗ สหชาติของพระพุทธเจ้า

               ๗ สหชาติคือ พระนางพิมพา พระอานนท์ กาฬุทายีอ�ามาตย์ นายฉันนะ
               มหาดเล็ก ม้ากัณฐกะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และขุมทองทั้ง ๔

                       พระญาติวงศ์ทั้งสองฝ่ายทรงเห็นพร้อมกันว่า พระนางพิมพาทรง

               พร้อมด้วยคุณสมบัติทุกอย่าง สมควรจะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะ
               พระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงได้มีขึ้นในสมัยที่ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงทรงมี

               พระชนมายุได้ ๑๖ ปีพอดี


                                        ตามรอยพระศาสดา
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27