Page 25 - ตามรอยพระศาสดา
P. 25
24
พระบรมโพธิสัตว์ทรงน้อมพระทัยในการบรรพชา พระบรมโพธิสัตว์
ได้ทรงกีฬาตลอดทั้งวันในพระราชอุทยานนั้น ทรงสรงในมงคลโบกขรณี
เมื่อพระอาทิตย์อัสดงคตแล้ว ประทับพระแท่นมงคลศิลาปรารถนาจะทรง
แต่งพระองค์ ในล�าดับนั้นนางบ�าเรอของพระบรมโพธิสัตว์ ถือเอาภูษาทรง
ต่างสีชนิดเครื่องทรงต่างๆ และเครื่องหอม เครื่องลูบไล้ ยืนเฝ้าอยู่รอบ
พระองค์
สมัยนั้น พระเจ้าสุทโธทนะมหาราชทรงทราบว่า มารดาพระราหุล
ประสูติพระโอรส จึงให้ส่งข่าวไปว่า “ขอพระลูกของเราจงยินดีเถิด”
พระบรมโพธิสัตว์ทรงทราบข่าวนั้นแล้ว ตรัสว่า “ห่วงเกิดแล้ว เครื่อง
พันธนาการได้เกิดขึ้นแล้ว”
พระเจ้าสุทโธทนะทรงตรัสถามผู้น�าข่าวไปทูลว่า โอรสของเราตรัส
อย่างไรบ้าง เมื่อทราบแล้ว จึงโปรดเกล้าว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พระนัดดา
ของเราจะมีนามว่า “ราหุล” ดังนี้
พระบรมโพธิสัตว์จึงประทับรถพระที่นั่งกลับเข้าพระนคร ด้วยยศ
ใหญ่และด้วยพระสิริโสภาคย์น่ารื่นรมย์ใจอย่างยิ่ง ในขณะนั้น ขัตติกัญญา
นามว่า “กีสาโคตมี” พระมาตุจฉาประทับอยู่ ณ ปราสาทชั้นบน ทอด
พระเนตรเห็นพระรูปสิริแห่งพระบรมโพธิสัตว์ท�าประทักษิณพระนคร ทรง
ปีติโสมนัสมาก จึงทรงเปล่งอุทานว่า
“พระกุมารนี้ เป็นโอรสของพระมารดาใด พระมารดานั้นก็ดับเข็ญ
เป็นโอรสของพระบิดาใด พระบิดานั้นก็ดับเข็ญ พระกุมารนี้เป็นพระสามี
ของนารีใด นารีนั้นก็ดับเข็ญ ดังนี้”
พระโพธิสัตว์เจ้าได้สดับเช่นนั้นแล้ว จึงทรงด�าริว่า พระนางเธอทรง
รับสั่งอย่างนี้ เมื่อพระมารดาได้เห็นอัตภาพของเราเช่นนี้พระทัยก็ดับเข็ญ
ตามรอยพระศาสดา