Page 14 - ตามรอยพระศาสดา
P. 14
13
กาฬเทวิลดาบสได้ฟังเช่นนั้น จึงรีบเดินทางเข้าไปยังพระราชนิเวศน์
นั่งบนอาสนะที่เขาจัดถวายแล้วถวายพระพรว่า
“ถวายพระพร ได้ทราบว่าพระราชโอรสของมหาบพิตรประสูติแล้ว
อาตมภาพขอเฝ้าพระกุมารนั้น”
พระราชาจึงให้น�าพระกุมารผู้ประดับแล้วมาให้นมัสการพระดาบส
แต่พระบาททั้งคู่แห่งพระบรมโพธิสัตว์ กลับไปประดิษฐานอยู่เบื้องบนชฎา
พระดาบส ทั้งนี้เพราะบุคคลอื่นที่พระบรมโพธิสัตว์จะควรไหว้โดยอัตภาพ
นั้นมิได้มี ถ้าผู้ไม่รู้ก็อาจจะวางพระกุมารหันพระเศียรไว้แทบเท้าพระดาบส
ถ้าท�าเช่นนั้นศีรษะพระดาบสจะต้องแตกออกเป็นเจ็ดภาค พระดาบสคิด
ว่า เราไม่ควรท�าให้ตัวเราพินาศ จึงลุกจากอาสนะไปประคองอัญชลีต่อ
พระโพธิสัตว์ พระราชาเห็นอัศจรรย์ดังนั้นจึงบังคมพระโอรสของพระองค์
พระดาบสผู้นี้ระลึกชาติได้ถึงแปดสิบกัป ระลึกชาติในอดีตได้สี่สิบกัป
อนาคตสี่สิบกัป เมื่อเห็นพระลักษณะของพระบรมโพธิสัตว์ จึงใคร่ครวญ
ดูว่า พระกุมารนี้จักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่หนอ ก็ทราบ
ด้วยอนาคตังสญาณว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนโดยไม่ต้อง
สงสัย จึงแย้มสรวลให้รู้ว่า พระกุมารนี้เป็นอัจฉริยะแท้ แล้วใคร่ครวญ
ต่อไปว่า เราจะอยู่ทันเห็นพระกุมารนี้เป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่หนอ ก็ทราบ
ว่า เราจักไม่ได้เห็นเสียแล้วจะต้องตายเสียก่อนในระหว่างถึงพระพุทธเจ้า
จะได้ตรัสรู้อีกตั้งร้อยองค์พันองค์ก็ไม่อาจจะโปรดอาตมะได้ เพราะเรา
ตายไปจากนี้ต้องไปเกิดในอรูปภพ เราจักไม่ได้เห็นอัจฉริยบุรุษเห็นปานนี้
ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า นี้จัดเป็นความเสื่อมอย่างใหญ่หลวงของเรา
ด�าริเช่นนี้แล้วก็ร้องไห้
ตามรอยพระศาสดา