Page 93 - ตามรอยพระศาสดา
P. 93
92
ชื่อทีฆนขะอัคคิเวสสนะ เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ยืนอยู่ ณ ที่ข้างหนึ่ง ทูล
แสดงความเห็นของตนว่า “พระโคดม ข้าพเจ้าเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่
ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด”
พระพุทธเจ้าตอบว่า “อัคคิเวสสนะ ถ้าอย่างนั้นความเห็นอย่างนั้น
ก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน ท่านต้องไม่ชอบความเห็นอย่างนั้น” แล้วแสดงเรื่อง
ความคิดเห็นของคนสามจ�าพวกว่า
“อัคคิเวสสนะ พวกหนึ่งเห็นว่า สิ่งทั้งปวงควรแก่เรา เราชอบใจหมด
พวกหนึ่งเห็นว่าสิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่เรา เราไม่ชอบใจหมด อีกพวกหนึ่งเห็น
ว่า บางสิ่งควรแก่เรา เราชอบใจ บางสิ่งไม่ควรแก่เรา ๆ ไม่ชอบใจ
ความเห็นของพวกต้นใกล้ข้างความรักใคร่ยินดีในสิ่งนั้น ๆ พวกที่
สองใกล้ข้างความเกลียดชังในสิ่งนั้น ๆ พวกที่สามใกล้ทั้งรักใคร่ในบางสิ่ง
เกลียดชังในบางสิ่ง ผู้รู้เห็นว่า ถ้าเราจักถือมั่นในความเห็นอย่างใดอย่าง
หนึ่ง ก็ต้องผิดไปจากความเห็นของอีกสองพวกที่ไม่เหมือนกัน ครั้นถือผิด
กันมีขึ้น ความวิวาทเถียงกันก็มีขึ้น ครั้นความพิฆาตหมายมั่นมีขึ้น ความ
เบียดเบียนกันก็มีขึ้น ผู้รู้มาเห็นอย่างนี้แล้ว ย่อมละความเห็น ๓ อย่างนั้น
เสีย “แล้วทรงแสดงอุบายเรื่องไม่ถือมั่นต่อไปว่า “อัคคิเวสสนะ กาย คือ
ดิน น�้า ไฟ ลม ประชุมกัน มีบิดา มารดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นเพราะข้าวสุก
และขนมสด มีความแตกกระจัดกระจายไปเป็นธรรมดา ควรพิจารณาเห็น
โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อดทนได้ยาก เป็นของว่างเปล่าไม่ใช่ตน
เมื่อพิจารณาอย่างนี้ ย่อมละความพอใจรักใคร่ กระวนกระวายในกามเสียได้
อนึ่ง สุข ทุกข์ ไม่สุข ไม่ทุกข์ (เฉย ๆ) ๓ อย่างนี้ ไม่เที่ยง ปัจจัยแต่ง
ขึ้น อาศัยปัจจัย เกิดขึ้นแล้วมีความสิ้นไป จางไป เสื่อมไป ดับไปเป็นธรรมดา
อริยสาวกได้ฟังแล้ว เห็นอย่างนี้ย่อมเบื่อหน่าย ในสุข ในทุกข์ หรือไม่สุข
ตามรอยพระศาสดา