Page 26 - รายงานเขมร
P. 26

26


               โตนเลสำป เป็นทะเลสำบน ้ำจืดที่ได้รับกำรยกย่องว่ำมีควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงสูง

               เป็นแหล่งเพำะพันธุ์ปลำน ้ำจืดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมีพันธุ์ปลำมำกถึงกว่ำ 300 ชนิด สำเหตุที่ท ำให้

               ปลำชุกชุมมำจำกกำรไหลของกระแสน ้ำที่มีลักษณะเฉพำะ และระบบนิเวศน์ที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ สำมมำ

               รถพบปลำน ้ำจืดสำยพันธ์ที่หำยำก โดยเฉพำะปลำบึก [Gian Cat Fish] ซึ่งเป็นพันธุ์ปลำซึ่งเป็นปลำน ้ำจืดที่

               ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีถิ่นอำศัยเพียงแห่งเดียวในโลกคือในแม่น ้ำโขง จะอำศัยทะเลสำบโตนเลเป็นที่วำงไข่

               แล้วว่ำยทวนน ้ำจำกโตนเลสำบขึ้นสู่ประเทศไทย-ลำว ก่อนไปผสมพันธุ์ที่จีนซึ่งเป็นต้นแม่น ้ำโขง
               ทรัพยำกรธรรมชำติประเภทอื่นๆ ในโตนเลสำบ ยังมีทั้งพืชพรรณต่ำง ๆกว่ำ 200 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม


               กว่ำ 46 สำยพันธุ์ รวมทั้งสัตว์ปีกอย่ำงนกอีกกว่ำ 225 สำยพันธุ์ สัตว์บำงชนิดที่พบเห็นได้เฉพำะบริเวณ
               โตนเลสำบเท่ำนั้น และยังมีจ ำนวนไม่น้อยที่เป็นสัตว์ปีกอนุรักษ์ของโลกทรัพยำกรทำงธรรมชำติที่ได้จำกผืน

               น ้ำโตนเลสำบ คือ สิ่งที่หล่อเลี้ยงชนชำวกัมพูชำ แต่ละปีมีกำรจับปลำในปริมำณมำก เช่นปลำแดดเดียว ปลำ

               เนื้ออ่อน และกำรท ำปลำร้ำที่ขึ้นชื่อ แต่ในระยะหลังทั้งผลกระทบที่เกิดจำกกำรสร้ำงเขื่อนขนำดใหญ่ที่อยู่

               ทำงตอนเหนือของแม่น ้ำโขง มีผลต่อปริมำณน ้ำจำกแม่น ้ำโขงที่หล่อเลี้ยงโตนเลสำบลดลงอย่ำงน่ำเป็นห่วง

               และกำรจับปลำในปริมำณที่มำกเกินสมดุลธรรมชำติท ำให้ในระยะหลัง ปลำซึ่งจับได้มีปริมำณลดลง แม้แต่

               ปลำบึกเองที่เคยพบได้ทั่วไปในแม่น ้ำโตนเลสำปกับล ำน ้ำโขง รวมทั้งในบริเวณใกล้กับกรุงพนมเปญแทบจะ

               หำยไปจำกลุ่มน ้ำแห่งนี้ กระทั่งองค์กำรพัฒนำภำคเอกชนอนุรักษ์สภำพแวดล้อม  ได้เรียกร้องให้

               คณะกรรมำธิกำรแม่น ้ำโขง (Mekong River Commission) ให้เอำใจใส่ต่อสภำพนิเวศน์ในล ำน ้ำโขงที่ก ำลัง

               ถูกบั่นทอนจำกกำรสร้ำงเขื่อน ขนำดใหญ่กั้นล ำน ้ำ นอกจำกนี้ยังพบว่ำเมื่อปลำลดลง ชำวบ้ำนได้หันมำจับงู

               น ้ำทดแทนทั้งเพื่อน ำไปจ ำหน่ำยเพื่อกำรบริโภค และน ำมำเลี้ยงจระเข้ในฟำร์มท้องถิ่นแทนปลำ ปัจจุบัน

               ชำวบ้ำนได้หันมำเลี้ยงจระเข้เพรำะมันสำมำรถท ำเงินให้ได้ดีกว่ำอำชีพหำปลำมำกทีเดียวไบรอัน สจวร์ต
               นักวิจัยสมำคมอนุรักษ์สัตว์ป่ำกล่ำวว่ำ ช่วงฤดูฝนปี 1999 และ 2000 ชำวบ้ำนจับงูน ้ำถึงวันละกว่ำ 8,500 ตัว

               ซึ่งถ้ำยังจับกันในอัตรำสูงขนำดนี้ คงมีงูจับอีกไม่นำนนัก  นอกจำกควำมหลำกหลำยของสิ่งมีชีวิตแล้ว

               บริเวณลุ่มน ้ำโตนเลสำบก็ยังมีทรัพยำกรป่ำไม้ที่ส ำคัญ ทั้งป่ำชำยเลนและป่ำไม้ในพื้นที่ชุ่มน ้ำ อย่ำงไรก็ตำม

               พื้นที่ป่ำไม้ของกัมพูชำได้เริ่มลดลงอย่ำงน่ำเป็นห่วงจำกอัตรำ กำรตัดไม้ท ำลำยป่ำทั้งเพื่อกำรค้ำและน ำมำ

               เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน สูงถึง 300,000 เฮกตำร์ต่อปี   ‘ชำวน ้ำ’ประชำกรของโตนเลสำบบริเวณโตนเลสำบ

               และพื้นที่โดยรอบมีประชำกรอำศัยอยู่รำวร้อยละ 10 ของประชำกรกัมพูชำทั้งประเทศ คนเหล่ำนี้เรียกตัวเอง

               ว่ำ ‘ชำวน ้ำ’ โดยใช้ชีวิตบนน ้ำด้วยกำรอำศัยอยู่บนเรือ ดังที่สมเด็จกรมพระยำด ำรงรำชำนุภำพทรงตั้ง

               ข้อสังเกตว่ำ“…รำวกับจะตั้งเมืองอยู่ในทะเลสำบ” ประชำกรที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนยำกจน กำรอยู่อำศัยจึงไม่

               แตกต่ำงจำกสลัมที่เรำเคยเห็น ที่นี่จะมีชุมชนเรือนแพอยู่อำศัยเรียงรำยกันอยู่อย่ำงค่อนข้ำงแออัด ด้วยควำมที่

               ระดับน ้ำที่ขึ้นลงตำมฤดูกำล หน้ำน ้ำจะมีปริมำณน ้ำท่วมขึ้นสูง คนที่นี่จะปลูกสร้ำงบ้ำนกันอย่ำงง่ำยๆ
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31