Page 31 - รายงานเขมร
P. 31

31


                       เทพทั้งมวลถึงควำมสวยงำมน่ำย ำเกรง นอกจำกนี้ ผู้ที่นับถือศำสนำฮินดูยังเชื่อว่ำจังหวะกำรรำยร ำ

               ของพระศิวะอำจบันดำลให้เกิดผลดีและผลร้ำยแก่โลกได้ ฉะนั้นจึงจ ำเป็นที่จะต้องอ้อนวอนให้พระองค์ฟ้อน

               ร ำในจังหวะที่พอดี โลกจึงจะร่มเย็นเป็นสุข หำกพระองค์โกรธกริ้วด้วยกำรร่ำยร ำในจังหวะที่รุนแรงแล้วก็

               ย่อมจะน ำมำซึ่งภัยพิบัติแก่โลกนำนัปกำร

                       บรรณำลัย ถัดจำกโคปุระมำทำงซ้ำยหรือทิศใต้ เป็นบรรณำลัยที่อยู่ในสภำพที่สวยงำมและดู

               สมบูรณ์มำก ตั้งอยู่บนฐำนยกพื้นเล็กน้อย ลักษณะท ำเป็นสองชั้น จุดเด่นของบรรณำลัยนอกจำกกรอบประตู
               เสำประดับกรอบประตูท ำเป็นวงประดับด้วยลำยใบไม้ศิลปะบันทำยสรี ที่หน้ำบันสลักเรื่องรำมเกียรติ์ ตอน


               ทศกัณฑ์ยกเขำไกรลำศให้เข้ำที่ โดยเรื่องมีอยู่ว่ำ ครั้งที่ท้ำววิรุฬหกส ำคัญผิดไปว่ำพระศิวะเสด็จออก พอขึ้น
               บันไดเขำไกรลำศขั้นหนึ่งก็กรำบถวำยบังคม ขณะนั้นมีตุ๊กแกตัวหนึ่งเกำะอยู่ตรงบันดี่วิมำนพระศิวะ ตุ๊กแก

               เห็นท้ำววิรุฬหกหลงกรำบทุกขั้นบันไดก็ให้นึกสนุก จึงแกล้งกระแอมให้คล้ำยเสียงคน ท ำให้ท้ำววิรุฬหก

               ต้องถวำยบังคมทุกขั้นบันได ครั้นเห็นตัวและรู้ว่ำเป็นตุ๊กแกจึงโกรธ จึงถอดสังวำลออกขว้ำง หวังจะประหำร

               ตุ๊กแกแต่พลำดเลยไปถูกเขำไกรลำศจนเอียงไป ทั้งพระศิวะและพระอุมำเทวีต่ำงตื่นตกพระทัยเข้ำใจว่ำเกิด

               แผ่นดินถล่ม พอพระองค์ทรำบควำมก็ได้กะเกณฑ์เหล่ำเทพเทวดำมำช่วยยกเขำไกรลำศขึ้นตั้งไว้อย่ำงเดิม

               ควำมชอบนี้ทศกัณฑ์ได้ทูลขอพระอุมำเทวีจำกพระศิวะ ซึ่งพระองค์ทรงประทำนให้ ทศกัณฑ์ดีใจจึงได้อุ้ม

               พระอุมำไปจำกวิมำนพระศิวะ แต่ไปได้สักพัก ทศกัณฑ์รู้สึกประหนึ่งถุกไฟสุมทรวงและร้อนผ่ำวไปทั้ง

               ศีรษะ มิอำจเดินทำงต่อไปได้ จึงได้พำพระอุมำเทวีมำคืนแด่พระศิวะ พระศิวะก็ทรงเมตตำ ประทำนนำง

               มณโฑให้เป็นบ ำเหน็จ ในภำพสลักที่หน้ำบันจะเห็นภำพพระศิวะก ำลังอุ้มพระอุมำเทวีอยู่บนตัก ด้วยควำม

               ตื่นพระทัย ท่ำมกลำงเขำไกรลำศที่เอียงลง มีพวงช้ำงและสิงห์ซึ่งจัดว่ำเป็นเจ้ำแห่งพลังต่ำงตกใจเงยหน้ำ

               ท ำท่ำกลัวเกรง นับได้ว่ำเป็นภำพสลักที่มีชีวิตชีวำที่สุดภำพหนึ่ง
                       ควำมสวยงำมของปรำสำทบันทำยสรีนี้ช่ำงในสมัยโบรำณได้สร้ำงอย่ำงบรรจงและยังได้รวบรวม

               เอำศิลปะในยุคเก่ำหลำยยุคหลำยสมัย ไม่ว่ำจะเป็นศิลปะแบบพระโค ศิลปะแบบบำแค็ง ศิลปะแบบเกำะแกร์

               และแปรรูป มำอนุรักษ์ไว้ ณ ปรำสำทแห่งนี้ ดูได้จำกเสำติดกับผนัง เสำประดับกรอบประตู ทับหลังและ

               หน้ำบัน ส ำหรับภำพเทวดำและเทพธิดำที่สลักอยู่ประจ ำผนังเทวลัย ก็มีลักษณะน่ำชมมำก เนื้อตัวไม่ใหญ่โค

               แต่ดูอวบอิ่ม ประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพำภรณ์ดูสวยงำมมำก ยืนอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว นำงอัปสรยืนอยู่ในท่ำที่

               ชวนพิศเอียงสะโพกเล็กน้อย ทรงผมเกล้ำเรียบๆ ประดับด้วยศิรำภรณ์เล็กน้อย มีต่ำงหูประดับฝีมือประณีต

               ตุ้มหูคล้ำยพวงอุบะ (มำลัย) ยำวเสมอไหล่ เอียงคอเล็กน้อยมือจับจีบดอกบัว ใส่ก ำไลทั้งมือและท้ำว สวมผ้ำ

               มีกระเปำะจีบอยู่ด้ำนหน้ำ รอบๆ สะโพกมีลำยคล้ำยดวงดอกไม้ ดูแล้วเป็นธรรมชำติมำก
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36