Page 36 - รายงานเขมร
P. 36

36


                       ปรำสำทบำยนถูกสร้ำงโดยกำรน ำหินมำวำงซ้อนๆ กันขึ้นเป็นรูปร่ำง แม้จะเป็นปรำสำทไม่ใหญ่โต

               เท่ำนครวัด แต่มีควำมแปลกและดูลี้ลับทั้งปรำสำทมีแต่ใบหน้ำคน หำกขึ้นไปยืนอยู่ภำยในปรำสำทนี้ไม่ว่ำ

               มุมไหนก็หำได้รอดหลุดพ้นจำกสำยตำเหล่ำนี้ได้เลย

                       นักเดินทำงรุ่นเก่ำที่เดินทำงมำยังปรำสำทบำยนรุ่นแรกๆ เช่น นำยปิแอร์ โลตี ได้บันทึกไว้ว่ำ

               “ข้ำพเจ้ำแหงำนหน้ำขึ้นไปยังปรำสำทที่มีต้นไม้ปกคลุม ซึ่งท ำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนคนแคระและทันทีทันใด

               เลือดในตัวข้ำพเจ้ำก็เกิดแข็งเย็นขึ้นมำ เมื่อมองเห็นรอยยิ้มขนำดมหึมำที่ก ำลังมองลงมำแล้วก็รอยยิ้มอีกด้ำน
               หนึ่งเหนือก ำแพงอีกด้ำนหนึ่งแล้วก็รอยยิ้มที่สำรทแล้วก็รอยยิ้มที่ห้ำ แล้วก็ที่สิบ ปรำกฏจำกทั่วสำรทิศ


               ข้ำพเจ้ำรู้สึกเหมือนมีตำคอยจ้องมองอยู่ทุกทิศทำง”
               ปรำงค์ปรำสำทบำยน

                       ปรำงค์ปรำสำทบำยนทั้ง 54 ปรำงค์ถูกสลักเป็นภำพพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผัน

               พระพักตร์ออกไปทั้งสี่ทิศ เพื่อสอดส่องดูแลควำมทุกข์สุขของเหล่ำพสกนิกรของพระองค์ให้อยู่เย็นเป็นสุข

               รอยยิ้มที่ระเรื่อนี้เรียกว่ำยิ้มแบบบำยนเปี่ยมไปด้วยควำมเมตตำกรุณำ ใบหน้ำเหล่ำนั้นหำกนับรวมกัน 54

               ปรำงค์ปรำสำทปรำงค์ปรำสำทละ 4 หน้ำ จะมีรวมถึง 216 หน้ำ แต่ปัจจุบันได้สึกกร่อนพังทลำยลงไปหลำย

               หน้ำแล้ว

                       รอบๆ ปรำงค์ประธำนประกอบด้วยระเบียงคต 2 ชั้น รูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้ำ ชั้นนอกมีขนำดกว้ำง

               140 เมตร ยำว 160 เมตร ชั้นในมีขนำดกว้ำง 70 เมตร ยำว 80 เมตร หน้ำโคปุระทุกด้ำนมีภำพประติมำกรรม

               ลอยตัวรูปสิงห์ทั้งสองข้ำงของบันได ปรำงค์ประธำนมีลักษณะเป็นทรงกรวยมีเส้นผ่ำศูนย์กลำงถึง 25 เมตร

               และสูง 43 เมตร เหนือจำกระดับพื้น ตัวปรำสำทโดยรอบแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ประกอบระเบียงคตด้ำนนอก

               ชั้นระเบียงคตด้ำนใน และบนสุดเป็นชั้นของปรำงค์ประธำน และปรำงค์บริวำรที่ทุกปรำงค์จะมีภำพพระ
               พักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผินพระพักตร์มองออกไปทั้งสี่ทิศ

               ระเบียงคตชั้นนอก

                       แต่เดิมมีหลังคำหินทรำยมุงอยู่ แต่ธรรมชำติและป่ำที่กลืนปรำสำทนำนนับร้อยปี รวมทั้งสงครำม

               ต่อเนื่องอีกหลำยทศวรรษท ำให้หลังคำส่วนใหญ่พังทลำยลงหมด ปัจจุบันหลังคำหินเหล่ำนี้กองอยู่ในบริเวณ

               ปรำสำทหลำยกองพบแต่เสำศิลำทรำยที่ทั้งสี่ด้ำนของเสำมรภำพสลักนูนต ่ำของนำงอัปสรำก ำลังร่ำยร ำ

                       ผนังด้ำนทิศตะวันออก ตลอดควำมยำว 35 เมตรและสูง 3 เมตร ถูกสลักเป็นภำพนูนต ่ำ ในภำพเป็น

               ขบวนทหำรและแม่ทัพนำยกองส่วนหนึ่งของขบวนทัพพระเจ้ำชัยวรมันที่ 7 ภำพแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือภำพ

               ด้ำนบน กลำงและด้ำนล่ำงง กำรจัดขบวนทัพใยสมัยนั้นเป็นรูปแบบขบวนทัพที่ใช้กันมำจนถึงปัจจุบัน

               ประกอบด้วยกองก ำลังสอดแนม ทัพหน้ำ ทัพหลวง กองสรรพวุธและกองเสบียง กำรแต่งกำยของเหล่ำทหำร

               มีรูปแบบเป็นหมู่เป็นกองเห็นได้ชัด จำกลักษณะของหมวก เสื้อ ผ้ำยันต์ และผ้ำนุ่ง ตลอดจนอำวุธที่ใช้ก็
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41