Page 40 - รายงานเขมร
P. 40

40


               ควำมแปลกและดูลี้ลับ ทั้งปรำสำทมีแต่ใบหน้ำคนหำกขึ้นไปยืนอยู่ภำยในปรำสำทนี้ ไม่ว่ำมุมไหนก็หำได้

               รอดหลุดพ้นจำกสำยตำเหล่ำนี้ได้เลย

                       ถ้ำมองตำมแผนผังหรือแผนที่ของโบรำณสถำนจะเห็นว่ำปรำสำทบำยนจะอยู่ตรงจุดกึ่งกลำงของ

               เมืองพระนครหลวง โดยมีถนนตัดผ่ำนมำทั้ง 4 ทิศมุ่งตรงมำยังจุดตรงกลำงนี้ ปรำสำทบำยนไม่ได้สร้ำงบน

               เนินเขำ หรือที่สูงให้เป็นรูปปิรำมิดเหมือนปรำสำทอื่นๆ แต่ว่ำสร้ำงไว้บนพื้นรำบและยกฐำนเตี้ยๆ  เมื่อเทียบ

               กับปรำสำทอื่นๆ แต่ทรงทรงสร้ำงปรำสำทที่สลักใบหน้ำพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร มีทั้งหมด 54 ยอด กำร
               สร้ำงปรำสำทบำยนนี้ใช้วิธีกำน ำหินมำซ้อนกันขึ้นเป็นชั้นๆ  แล้วแกกะสลักใบหน้ำพระโพธิสัตว์อวโลกิเต


               ศวร ประดับยอดปรำสำทหันหน้ำออกทั้งสี่ทิศ มีควำมแปลกและมองดูลี้ลับ ทั้งปรำสำทมีแต่ใบหน้ำ และ
               รอยยิ้มอันเปี่ยมสุข มีทั้งหมด 216หน้ำ กำรวำงผังของปรำสำทบำยน จะไม่เหมือนกับปรำสำทนครวัด เพรำะ

               ปรำสำทบำยนจะใช้วกลมเป็นศูนย์กลำงของปรำสำทแล้วกระจำยวงกลมออกไปโดยรอบ เป็นคติควำมเชื่อ

               แบบพระพุทธศำสนำคือเปรียบเสมือนรัศมี หรือพระรังสีของพระธรรมออกไปไม่มีที่สุดไม่มีที่ประมำณ

                       รูปสลักและศิลปกรรมสัณฐำนของกลุ่มอำคำรประกอบด้วยระเบียงคต (gallery) ล้อมรอบอยู่ 2ชั้น

               เรียกว่ำชั้นในและชั้นนอก ชั้นนอกจะสร้ำงก่อนชั้นใน ระเบียงจะมีเสำหินเรียงรำยสองข้ำง และมักมีรูปสลัก

               นูนต ่ำของนำงอัปสรอยู่ รวมทั้งรูปสลักภำพประวัติควำมเป็นมำและสังคมในสมัยนั้น เช่น กำรรบระหว่ำง

               ขอมกับจำม เป็นต้นระเบียงชั้นนอกจะเข้ำถึงที่ตั้งของบรรณำลัย หรือหอหนังสือ (Library) 2 จุด คือหอเหนือ

               และหอใต้ ส่วนระเบียงชั้นในซึ่งสร้ำงในยุคหลัง จะเห็นกำรเปลี่ยนแปลงรูปสลักจำกรูปชีวิตประจ ำวัน เป็น

               รูปสลักทำงศำสนำมำกขึ้น   รอบปรำสำทบำยนที่เสียมเรียบจะปรำกฏภำพโดยเฉพำะภำพแกะสลักอำยุนับ

               พันปีเหล่ำนั้น รอบปรำสำทบำยนจะเห็นภำพของกำรประดั่ญ เรียกเป็นภำษำไทยว่ำภำพกำรต่อสู้ อยู่บน

               ก ำแพงปรำสำทบำยนมวย มีมำนำนตั้งแต่สมัยขอมเรืองอ ำนำจค ำว่ำมวยเอง เป็น ภำษำขะแมร์ แปลว่ำหนึ่ง
               ทั้งหมดนี้ไทยรับค ำมำจำกขะแมร์เพรำะอิทธิพลควำมรุ่งเรืองของขะแมร์ที่รับมำจำกขอม มำจำกค ำว่ำ "เนี้ยะ

               ประดั่ญเลขมูย" อันมีควำมหมำยว่ำนักสู้อันดับหนึ่ง และเรียกกันสั้น ๆ ว่ำ"เนี้ยะมูย" และคนไทยน ำมำเรียก

               สั้น ๆ ว่ำ "นักมวย"

                       ปรำสำทบำยน เป็นปรำสำทหินของอำณำจักรเขมร อยู่ในบริเวณของใจกลำงนครธม สร้ำงขึ้นเป็น

               วัดประจ ำสมัยของพระเจ้ำชัยวรมันที่ 7 ก่อสร้ำงในรำวปี พ.ศ. 1724 - พ.ศ. 1763 หลังจำกที่พระเจ้ำชัยวรมัน

               ที่ 7 ทรงได้ชัยชนะจำกกำรขับไล่กองทัพอำณำจักรจำมปำ นับเป็นศำสนสถำนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ

               โลก มีควำมซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้ำงและควำมหมำย เนื่องจำกผ่ำนควำมเปลี่ยนแปลงด้ำนศำสนำและ

               ควำมเชื่อมำตั้งแต่ครำวนับถือเทพเจ้ำฮินดู และพุทธศำสนำ อำคำรมีลักษณะพิเศษ เนื่องจำกส่วนของหอเป็น

               รูปหน้ำหันสี่ทิศ จ ำนวน 49 หอ ปัจจุบันคงเหลือเพียง 37 หอ ลักษณะโดยทั่วไปจะมี 4 หน้ำ 4 ทิศ แต่บำงหอ

               อำจมี 3 หรือ2 แต่บริเวณศูนย์กลำงของกลุ่มอำคำร จะมีหลำยหน้ำ
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45