Page 39 - รายงานเขมร
P. 39

39


               ปรำสำทบำยน

                       เมืองนครธมสร้ำงขึ้นโดยพระเจ้ำชัยวรมันที่ 7 เป็นรำชธำนีใหม่ที่ย้ำยมำจำกเมืองหลวง

                “ยโสธรปุระ” ที่มีมำตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 อันเป็นพระรำชพระด ำริพระเจ้ำชัยวรมันที่ 7 ที่ประสงค์จะ

               ขยำยพระรำชอำณำจักรขอมยิ่งใหญ่ขึ้น เมืองพระนคร มีคูเมืองล้อมกว้ำง 80 เมตร แต่ละด้ำนมีควำมยำวถึง 3

               กิโลเมตร มีก ำแพงหินล้อมรอบทั้ง 4 ด้ำน มีพื้นที่ 9 ตำรำงกิโลเมตร หรือ 5,625 ไร่  ก ำแพงแต่ละด้ำนก่อด้วย

               ศิลำแลงสูง 7 เมตร เป็นกำรยำกที่ศัตรูจะยกทัพมำตี ทะลวงก ำแพงหินเข้ำเมืองนครหลวงได้ง่ำยๆ
                       ปรำสำทหิน ต่ำงๆ นี้ไม่ใช่พระรำชวัง แต่เป็นศำสนสถำนทั้งศำสนำฮินดู และศำสนำพุทธ(นิกำย


               มหำยำน)นอกจำกนั้นยังมีจุดหมำยควบคู่ด้วยคือ อุทิศให้บรรพบุรุษ ส่วนพระรำชวังของกษัตริย์ขอมโบรำณ
               นั้นเชื่อว่ำสร้ำงขึ้นด้วยไม้  จำกบันทึกของ “จิวต้ำกวน”  รำชทูตจีนที่เข้ำมำในอำณำจักรขอม ประมำณพุทธ

               ศตวรรษที่ 18 ได้บันทึกไว้ว่ำ “หลังคำพระรำชวังมุงด้วยพระเบื้องหรือไม่ก็ดำดด้วยตะกั่ว” กำรขุดค้นของนัก

               โบรำณคดีในยุคต่อมำไม่พบว่ำมีเศษไม้ หรือเศษโลหะเนื่องจำกอำจจะถูกเผำเมืองเมื่อเกิดสงครำมช่วงชิง

               อ ำนำจภำยใน และภำยนอก

                       ในยุคพระนครนี้ พวกพรำหมณ์ ไม่ใช่ “นักบวช” แต่เป็นวรรณะหนึ่งที่มีครอบครัวและถูกจัดให้เป็น

               วรรณะสูงสุด เพรำะเป็นที่สำมำรถติดต่อกับเทพเจ้ำได้ เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมต่ำงๆ อีกทั้งยังให้ค ำแนะน ำ

               แก่กษัตริย์ในทุกเรื่อง ฉะนั้น พรำหมณ์จึงมีบทบำทและอิทธิพลสูงในสังคมขอมโบรำณ มีที่ดินไว้ใน

               ครอบครองมำกมำย และมีข้ำทำสบริวำรไว้รับใช้เช่นเดียวกับพระรำชำ พรำหมณ์จึงเป็นวรรณะที่มี

               ผลประโยชน์มำก อีกตัวอย่ำงหนึ่งคือ ในสมัยพระเจ้ำรำเชนทรวรมันที่ 2 มีพรำหมณ์ปุโรหิตชื่อ ยัชญวรำหะ

               เป็นผู้มีบทบำทในรำชส ำนัก และต่อมำพระองค์เสด็จสวรรคต พระเจ้ำชัยวรมันที่ 5 พระรำชโอรสเสด็จขึ้น

               ครองรำชย์สืบต่อมำ แต่เนื่องจำกว่ำพระองค์ทรงพระเยำว์พรำหมณ์ยัชญวรำหะจึงได้ท ำหน้ำที่ทั้งเป็นผู้ส ำเร็จ
               รำชกำรแทนพระองค์และเป็นพระอำจำรย์ให้กับพระเจ้ำชัยวรมันที่ 5 พร้อมๆกัน ต่อมำพรำหมณ์ยัชญวรำหะ

               ได้ทูลขอที่ดินแปลงหนึ่งเพื่อสร้ำงปรำสำท “บันทำยสรี” เพื่อบูชำพระศิวะ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของ

               รำษฎร พระองค์ก็ทรงอนุญำต ในประวัติศำสตร์กำรสร้ำงปรำสำทของขอมนั้นมีเพียงแห่งเดียวที่สร้ำงโดย

               รำษฎรซึ่ง ถ้ำไม่ใช่กษัตริย์ก็ต้องเป็นคนที่มีเงินและมีบำรมีมำกพอสมควรจึงสร้ำงได้ส ำเร็จ และเป็นปรำสำท

               ที่แกะสลักด้วยหินทรำยสีชมพูที่งดงมที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดำปรำสำทหินทั้งหลำย

                       ปรำสำทบำยน ศูนย์กลำงของเมืองนครธม เป็นปรำสำทหลวงประจ ำรัชสมัยพระเจ้ำชัยวรมันที่ 7

               นับว่ำเป็นกำรปฏิวัติรูปแบบของกำรสร้ำงปรำสำทที่มีภำพลักษณ์ต่ำงจำกกำรสร้ำงรูปแบบเดิมๆ โดยสิ้นเชิง

               เป็นเพรำะพระองค์ทรงเลื่อมใสในพุทธศำสนำ นิกำยมหำยำนอย่ำงยิ่ง ต่ำงจำกกษัตริย์หลำยพระองค์ที่ล้วน

               แล้วแต่นับถือศำสนำฮินดูหรือสำสนำพรำหมณ์ที่สืบทอดมำกว่ำ 415 ปี ในยุคสมัยพระนครปรำสำทบำยน

               ถูกสร้ำงโดยกำรน ำหินมำวำงซ้อนๆ กันขึ้นเป็นรูปร่ำง แม้จะเป็นปรำสำทไม่ใหญ่โตเท่ำกับนครวัด แต่มี
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44