Page 92 - 25620605121318noศธ 021028614file02_2
P. 92

กิจกรรมที่ 9 ฉันรักเธอ เธอรักฉัน หรือเรำรักกัน



                  สำระส ำคัญ
                         กำรสร้ำงและรักษำสัมพันธภำพที่ดีต่อกันระหว่ำงแฟน คู่รัก หรือคู่ชีวิต เป็นสิ่งส ำคัญและเป็น
                  ควำมรับผิดชอบของทั้งสองฝ่ำยที่ต้องเรียนรู้ระหว่ำงกัน กำรรับฟังและเคำรพควำมต้องกำรของแต่ละฝ่ำย
                  ไม่เอำเปรียบกันและกันเป็นพื้นฐำนส ำคัญ นอกจำกนั้นกำรตระหนักถึงธรรมชำติของควำมสัมพันธ์

                  ที่สำมำรถเปลี่ยนแปลงได้จะช่วยให้สำมำรถเตรียมตัวที่จะเผชิญกำรเปลี่ยนแปลง และเลือกวิธียุติ
                  ควำมสัมพันธ์โดยไม่ใช้ควำมรุนแรงได้


                  จุดประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียน
                         1. สำมำรถบอกวิธีกำรที่จะช่วยให้สัมพันธภำพเป็นไปด้วยดี
                         2. บอกแนวทำงกำรสื่อสำรที่ช่วยรักษำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงคู่

                  เนื้อหำ

                         1. กำรสร้ำงสัมพันธภำพระหว่ำงคู่รัก
                         2. กำรสร้ำงสัมพันธภำพระหว่ำงครอบครัว


                  ภำพรวมกำรจัดกิจกรรม
                         กำรเรียนรู้ผ่ำนบทบำทสมมติตำมสถำนกำรณ์ที่ก ำหนดให้ และกำรแลกเปลี่ยนแสดงควำมคิดเห็น
                  หลังกำรแสดงบทบำทสมมติ เพื่อท ำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับเงื่อนไขในกำรแสดงออกของคนที่มีสัมพันธภำพต่อกัน
                  และเป็นกำรฝึกกำรสื่อสำรเพื่อบอกควำมต้องกำรของตนเองและกำรรับฟังซึ่งกันและกัน


                  สื่อและอุปกรณ์
                         1. สถำนกำรณ์จ ำลองเหตุกำรณ์ บทบำทสมมติ
                         2. เอกสำรประกอบ “ฉันเป็นแบบไหน” (ส ำหรับผู้เรียนทุกคน)

                         3. เอกสำรประกอบ “กำรบอกและยืนยันควำมต้องกำรของตนเอง” (ส ำหรับผู้เรียนทุกคน)

                  ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม
                         1. ผู้จัดกำรเรียนรู้อธิบำยว่ำ กิจกรรม “ฉันรักเธอ เธอรักฉัน หรือเรำรักกัน”เป็นกำรเรียนรู้เกี่ยวกับ

                  สัมพันธภำพและกำรสร้ำงควำมเข้ำใจที่ดีต่อกัน ใช้ค ำถำมเพื่อน ำเข้ำสู่กำรเรียนรู้ ว่ำจำกชื่อกิจกรรมนี้
                  “ฉันรักเธอ เธอรักฉัน หรือเรำรักกัน” เรำอยำกให้ควำมสัมพันธ์ของเรำกับแฟนหรือคนรัก เป็นแบบไหน
                  เพรำะอะไร

                         2. แบ่งผู้เรียนออกเป็น 8 กลุ่ม โดยแยกเพศชำย 4 กลุ่ม เพศหญิง 4 กลุ่ม และชี้แจงว่ำแต่ละกลุ่ม
                  จะได้รับสถำนกำรณ์ 1 เรื่อง เพื่อให้พูดคุยแลกเปลี่ยนควำมเห็นกันในกลุ่ม ดังนี้









                                                                                                                88
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97