Page 137 - เสด็จสู่แดนสรวง
P. 137
ส่วนหลักฐํานว่ํามีกํารใช้เครื่องดนตรีเพ่ือประโคมย่ํายํามในพระรําชสํานักนั้น ได้ปรํากฏ หลกั ฐํานในกําพยเ์ หเ่ รอื (บทเหค่ รวญ) พระนพิ นธใ์ นเจํา้ ฟํา้ ธรรมธเิ บศร์ (ใน รนื่ ฤทยั สจั จพนั ธ์ุ ๒๕๕๖: ๖๖) ดังน้ี
ยามสอง ฆ้องยาม ย่า ทุกคืนค่าย่าอกเอง
เสียงปี่ ม่ีครวญเครง เหมือนเรียมร่าคร่าครวญนาน
ภํายหลงั บทบําทหนํา้ ทขี่ องกํารยํา่ ยํามไดข้ ยํายขอบเขตจํากเพยี ง “กํารบอกเวลํา” มําเปน็ กํารบอกเวลําพร้อมกับกํารถวํายพระเกียรติในพิธีศพของหลวง โดยใช้ดนตรีเป็นสําคัญ ธงทอง จนั ทรํางศุ ใหร้ ํายละเอยี ดวํา่ กํารประโคมยํา่ ยํามจะมขี น้ึ ทกุ ๓ ชว่ั โมง ไดแ้ ก่ ๖.๐๐ น. ๙.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. และ ๒๔.๐๐ น. ตํามลําดับ ปัจจุบันเจ้ําหน้ําที่ผู้รับผิดชอบ คือ ข้ํารําชกําร ในหมวดเครื่องสูงและกลองชนะ กองพระรําชพิธี สํานักพระรําชวัง โดยปี่ไฉนจะทําเพลงพญําโศก ลอยลม รบั จงั หวะดว้ ยกลองเปงิ มํางและกลองชนะพรอ้ มกํารประโคมแตรสงั ขใ์ นตอนตน้ และกํารสน้ิ สดุ กํารประโคม ต่อด้วยกํารบรรเลงปี่พําทย์นํางหงส์โดยข้ํารําชกํารกรมศิลปํากร (ธงทอง จันทรํางศุ ๒๕๕๑: ๔๐)
นนทพร อยู่มั่งมี (๒๕๕๑) ได้อธิบํายว่ํากํารประโคมย่ํายํามนั้นมีหลักเกณฑ์มําต้ังแต่ครั้ง กรุงศรีอยุธยํา ดังปรํากฏหลักฐํานใน คาให้การขุนหลวงหาวัด ระบุถึงจังหวะกํารประโคมกลองชนะ ในพิธีพระบรมศพ และพิธีพระศพของเจ้ํานํายรําชนิกูลว่ํา ใช้จังหวะ ติงเปิงครุบ ติงเปิงเปิงครุบ ตงิ เปงิ เปงิ ครบุ ตํา่ งจํากพระศพสมเดจ็ พระสงั ฆรําชและศพขํา้ รําชกํารทมี่ ไิ ดเ้ ปน็ รําชนกิ ลุ ซงึ่ ใชจ้ งั หวะ ติงเปิงครุบครุบครุบ ติงเปิงครุบครบ ติงเปิงครุบครุบครุบ จึงสํามํารถกล่ําวได้ว่ํา วิธีกํารประโคม ยํา่ ยําม ตลอดจนกํารจดั ใหม้ กี ํารประโคมยํา่ ยํามซง่ึ เปน็ ดนตรเี ฉพําะวฒั นธรรมหลวงมบี ทบําทหนํา้ ท่ี ในกํารระบุสถํานภําพของผู้วํายชนม์ อันได้แก่ จําแนกพระรําชฐํานะของเจ้ํานํายออกจํากผู้มิใช่ รําชสกลุ และยงั จํา แนกชนชนั้ ปกครอง คอื กษตั รยิ ์ พระบรมวงศํานวุ งศ์ และขนุ นํางชน้ั ผใู้ หญ่ ออกจําก ขนุ นํางชน้ั ผนู้ อ้ ยและสํามญั ชน ลกั ษณะดงั วํา่ นชี้ ว่ ยเนน้ ยํา้ วํา่ พระรําชฐํานะและสถํานภําพทํางชนชนั้ อันเน่ืองมําจํากโครงสร้ํางทํางกํารเมืองและสังคม โดยเฉพําะชนช้ันจํากชําติกําเนิดนั้นมีลักษณะ ที่ถําวรและชัดเจนแม้บุคคลเจ้ําของสถํานภําพนั้นจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตําม
เครอื่ งดนตรที ใี่ ชส้ ํา หรบั กํารประโคมยํา่ ยํามประกอบดว้ ยปไ่ี ฉน กลองชนะ สงั ข์ และแตรงอน บรรเลงรว่ มกบั วงปพ่ี ําทย์ ถอื เปน็ จํารตี ทส่ี บื เนอื่ งมําตงั้ แตค่ รงั้ สมยั อยธุ ยํา แตช่ ดั เจนวํา่ ในสมยั รชั กําล ท่ี ๘ ที่มีกํารใช้ท้ังแตร สังข์ และวงปี่พําทย์นํางหงส์ประโคมในพระรําชพิธีพระบรมศพ และทิ้งช่วง มําจนกระทั่งสมเด็จพระเทพรัตนรําชสุดําฯ สยํามบรมรําชกุมํารี ได้โปรดเกล้ําให้มีกํารร้ือฟื้นนําวง ปพ่ี ําทยน์ ํางหงสม์ ําบรรเลงรว่ มกํารประโคมยํา่ ยํามอกี ครงั้ นบั ตงั้ แตง่ ํานพระศพสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทรํา บรมรําชชนนีเป็นต้นมํา
กํารประโคมพระรําชพิธีพระบรมศพพระบําทสมเด็จพระปรมินทรมหําภูมิพลอดุลยเดช ครงั้ นจ้ี ะเหน็ ไดว้ ํา่ เรมิ่ ดว้ ยวงประโคมของงํานเครอ่ื งสงู ประกอบดว้ ย กลองมโหระทกึ ๒ ใบ ตปี ระโคม อยตู่ ลอดเวลํา วงแตรส์ งั ขแ์ ละวงปไ่ี ฉนกลองชนะ เรมิ่ ดว้ ยประโคมกลองมโหระทกึ รว่ มกบั วงแตรสงั ข์
5
ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ ๑35
เสด็จสู่แดนสรวง