Page 139 - เสด็จสู่แดนสรวง
P. 139
นุวัดติวงศ์ ควํามว่ํา “เครื่องประโคมที่ใช้เฉพาะงานศพเห็นมีอย่างเดียวแต่ปี่พาทย์นางหงส์ อันมี ผคู้ ดิ กลองคบู่ วั ลอยเขา้ ประสมวงกบั ปพ่ี าทย์ พวกปพ่ี าทยเ์ หน็ วา่ เพลงนางหงสเ์ ขา้ กบั กลองคดู่ ี จงึ ใช้ เพลงนนั้ เลยกลายเปน็ ชอ่ื เครอื่ งประโคมอยา่ งนนั้ ” พรอ้ มทงั้ อธบิ ํายดว้ ยวํา่ กํารใชป้ พ่ี ําทยม์ อญบรรเลง ในงํานพระศพในงํานหลวงเรมิ่ มคี รงั้ แรกเมอื่ งํานพระบรมศพสมเดจ็ พระเทพศริ นิ ทรําบรมรําชนิ เี ทํา่ นนั้ ทง้ั นเ้ี พรําะพระองคม์ เี ชอื้ สํายมอญ ทํา ใหค้ นภํายนอกหรอื ชําวบํา้ นคดิ ไปวํา่ ถํา้ จะจดั งํานศพอยํา่ งผดู้ ี ต้องมีปี่พําทย์มอญ (สุจิตต์ วงษ์เทศ ๒๕๕๖: ๒๓-๒๔)
ลักษณะกํารประโคมย่ํายํามพระบรมศพแตกต่ํางจํากพระศพเจ้ํานํายอ่ืนๆ เนื่องจํากจะมี กํารใช้กลองมโหระทึก ทั้งนี้เพรําะถือเป็นของสูงและมีควํามศักดิ์สิทธ์ิ ซึ่งจะเห็นได้ว่ําในปัจจุบันยัง คงใช้กลองมโหระทึกนี้ในงํานระดับรัฐพิธีที่สําคัญ (สุจิตต์ วงษ์เทศ ๒๕๔๖: ๒๙) แต่โบรําณกลอง มโหระทกึ ใชท้ งั้ ในงํานมงคลและอวมงคล บํางกลมุ่ ชนเชน่ ชําวจว้ งใชต้ เี พอื่ เรยี กฝน ทํา ใหม้ กี ํารประดบั รปู กบหรอื คํางคกไวท้ ห่ี นํา้ กลอง เชอื่ กนั วํา่ เสยี งทตี่ จี ะดงั ไปถงึ ยงั สวรรคเ์ พอ่ื เตอื นใหพ้ ญําแถนบนั ดําล ให้ฝนตกถูกต้องตํามฤดูกําล (พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ ๒๕๕๘) นอกจํากนี้ จะสังเกตได้ว่ําในพิธีกรรม โบรําณในหลํายวัฒนธรรม กลองถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบําทในพิธีกรรมอย่ํางมําก เชื่อกันว่ํา มนษุ ยจ์ ะสํามํารถตดิ ตอ่ กบั วญิ ญําณไดด้ ว้ ยผํา่ นเสยี งกลอง และเชอื่ วํา่ เสยี งกลองเปน็ เสมอื นกบั เสยี ง ของกํารต้อนรับ กํารขอบคุณ และกํารส่งลําวิญญําณอีกด้วย (Drake 2012)
ดงั นนั้ อําจกลํา่ วไดว้ ํา่ ดนตรใี นงํานพระบรมศพเปน็ เสมอื นกบั สะพํานเชอื่ มตอ่ โลกสองโลก เข้ําด้วยกันคือ โลกมนุษย์และสวรรค์ หรือโลกของคนเป็นกับคนตําย โดยจะสังเกตได้ว่ํา วงปี่ไฉน กลองชนะ ซ่ึงมีกลองมโหระทึกเป็นเครื่องดนตรีศักดิ์สิทธิ์ อันสอดรับกับวงปี่พําทย์นํางหงส์ที่เป็น ดนตรสี ญั ลกั ษณข์ องนกศกั ดส์ิ ทิ ธค์ิ อื หงสท์ เี่ ปน็ พําหนะนํา ดวงพระวญิ ญําณขน้ึ สฟู่ ํา้ อนั เปน็ สรวงสวรรค์ นั่นเอง
วงป่ีพําทย์นํางหงส์เครื่องใหญ่บรรเลงในงํานพระบรมศพพระบําทสมเด็จพระปรมินทรมหําภูมิพลอดุลยเดช (ที่มํา: ข่าวสด https://goo.gl/sUqXip)
5
ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ ๑3๗
เสด็จสู่แดนสรวง