Page 171 - เสด็จสู่แดนสรวง
P. 171
ภํายหลังจํากยุคสมัยของพระรําชินีนําถวิกตอเรียแล้ว ในรัชสมัยของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด (King Edward VII, ๑๙๐๑-๑๙๑๐) ตรงกับรัชกําลท่ี ๕ ผู้คนในอังกฤษก็ยังคงถือธรรมเนียมปฏิบัติ ในกํารแต่งกํายชุดดําและไว้ทุกข์ในงํานศพเช่นเดิมแต่ก็มีแนวโน้มในกํารลดควํามเคร่งครัดลง และ โดยเฉพําะเมอื่ สมยั สงครํามโลกครงั้ ที่ ๑ ทํา ใหม้ หี ญงิ มํา่ ยจํา นวนมํากเพรําะสญู เสยี สํามไี ปในสงครําม พวกเธอพยํายํามท่ีจะแต่งชุดดําแต่ไม่สํามํารถปฏิบัติได้โดยตลอด เพรําะแฟช่ันกํารแต่งกํายในช่วง เวลํานั้นเน้นชุดลําลองมํากขึ้น และไม่สะดวกต่อกํารทํางํานส่งผลทําให้แฟชั่นกํารแต่งกํายชุดดํา เปลยี่ นแปลงเชน่ ใสเ่ สอื้ ผํา้ พอเปน็ สญั ลกั ษณ์ งดกํารใสห่ มวกไวท้ กุ ข์ เปน็ ตน้ (Bedikian 2008: 35)
ประเดน็ หนง่ึ ทนี่ ํา่ สนใจทํางวชิ ํากํารดว้ ยกค็ อื ผลจํากกํารแตง่ ชดุ ดํา ไวท้ กุ ขข์ องพระรําชนิ นี ําถ วิกตอเรียทําให้เกิดค่ํานิยมขึ้นในหมู่ชนชั้นล่ํางลงมําด้วยไม่ว่ําจะเป็นชนช้ันกลําง (middle-class) ท่ีเกิดกํารขยํายตัวอย่ํางมําก เพรําะในเวลําน้ันเส้ือผ้ําได้ถูกผลิตขึ้นด้วยระบบโรงงํานอุตสําหกรรม ทํา ใหส้ ํามํารถซอ้ื หําชดุ ไดง้ ํา่ ยขนึ้ เพรําะรําคําไมแ่ พง และเลยี นอยํา่ งชนชนั้ สงู ไดโ้ ดยสะดวก ในขณะที่ ชนชั้นล่ํางยังไม่มีกําลังซ้ือชุดดําได้มํากพอทําให้บํางที่เกิดกํารก่อตั้งสมําคมเกี่ยวกับงํานศพขึ้นเช่น สมําคมที่มีช่ือว่ํา Burial and Friendly Societies เพ่ือให้สมําชิกสํามํารถที่จะหยิบยืมชุดและ เครื่องประดับท่ีต้องใช้ในงํานศพได้ (Bedikian 2008: 40-41) ทั้งหมดนี้ส่งผลทําให้กํารแต่งกํายชุด สีดําได้ถูกยึดถือเป็นแบบอย่ํางในกํารไปงํานศพและไว้ทุกข์ให้กับคนรัก ถือเป็นชุดทํางกําร และไม่ นํานนักธรรมเนียมกํารแต่งกํายงํานศพด้วยชุดสีดํานี้ได้แพร่หลํายไปยังภําคพื้นทวีปของยุโรป อเมรกิ ํา และออสเตรเลยี ดว้ ย จนอําจกลํา่ วไดว้ ํา่ องั กฤษไดเ้ ปน็ ตน้ กํา เนดิ ของธรรมเนยี มกํารแตง่ กําย ไว้ทุกข์ (cult of mourning) ซึ่งมีเป้ําหมํายเพื่อรําลึกถึงคนรัก
ย้อนกลับมําท่ีสยําม ภํายหลังจํากรัชกําลที่ ๕ เสด็จสวรรคต สมเด็จพระศรีพัชรินทรําบรม รําชนิ นี ําถ พระบรมรําชชนนพี นั ปหี ลวง กไ็ ดท้ รงแตง่ กํายไวท้ กุ ขด์ ว้ ยชดุ ดํา อยเู่ สมอ ดงั เชน่ ทปี่ รํากฏ ใน เกิดวังปารุสก์ พระนิพนธ์ในพระเจ้ําวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ําจุลจักรพงษ์ “....ในสมัยที่ข้าพเจ้า เป็นเด็กและได้เข้าเฝ้าท่านเกือบทุกๆ วัน เป็นสมัยที่ท่านไว้ทุกข์ทูลกระหม่อมปู่ และเมื่อเสด็จไป งานมงคล เช่น เฉลิมพระชนมพรรษาทูลกระหม่อมลุง ท่านก็ยังทรงดาอยู่ดี แต่คนอื่นๆแต่งดา เม่ือไม่มีทุกข์ให้ใครแล้ว ข้าพเจ้าจาได้ว่า ย่าทรงกร้ิว จนท่านถูกคนอ่ืนเขาหาว่า ท่านอยากจะเป็น แมห่ มา้ ยของพระจลุ จอมเกลา้ เสยี แตพ่ ระองคเ์ ดยี ว อยา่ งไรกด็ ี ทา่ นทรงดา อยเู่ ปน็ นติ ย์ และเกอื บจะ ไม่ทรงประดับเครื่องเพชรเลย...” (พระองค์เจ้ําจุลจักรพงษ์ ๒๕๕๒: ๕๒)
ในหนงั สอื เกดิ วงั ปารสุ ก์ ยงั เลํา่ ตอ่ ไปอกี วํา่ ในพระรําชพธิ พี ระบรมศพสมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทรํา บรมรําชินีนําถ พระบรมรําชชนนีพันปีหลวง เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ น้ัน “พระบรมศพทรงดาอย่างที่ท่าน ได้ทรงไว้ทุกข์ทูลหม่อมปู่เร่ือยๆ มา เขาคลุมพระพักตร์ด้วยแพรดาบาง เมื่อวางพระบรมศพลงบน พระแท่น จึงเลิกผ้าคลุมพระพักตร์ออก ดูย่าเหมือนบรรทมหลับอยู่ แต่ดูทรงงามกว่าธรรมดาอีก” (พระองค์เจ้ําจุลจักรพงษ์ ๒๕๕๒: ๑๓๙)
อย่ํางไรก็ตําม ในสังคมสยําม สีชุดในงํานศพยังสัมพันธ์กับเรื่องลําดับศักด์ิและอํายุอีกด้วย โดยมีหลักกํารง่ํายๆ คือ หํากผู้วํายชนม์เป็นผู้เยําว์และมีศักด์ิน้อยกว่ํา ผู้ใหญ่หรือผู้เป็นญําติเมื่อไป ร่วมพิธีศพจําต้องแต่งชุดดํา หํากผู้วํายชนม์เป็นผู้สูงวัยและมีศักด์ิสูงกว่ํา ผู้น้อยจะต้องแต่งชุดขําว
๗
ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ ๑๖๙
เสด็จสู่แดนสรวง