Page 384 - เสด็จสู่แดนสรวง
P. 384

เพื่อให้เกิดควํามเข้ําใจในสัมพันธภําพทํางวัฒนธรรมผ่ํานพระรําชพิธีพระบรมและพระเมรุระหว่ําง รําชสํานักพม่ําและไทยที่มีทั้งควํามคล้ํายคลึงและควํามแตกต่ํางกัน
พุทธศาสนากับวาระสุดท้ายของพระเจ้ามินดงศาสนทายกา
“ต่ําตะน่ํา-ดํายะก่ํา” (သာသနဒါယကာ) หรือ “ศําสนทํายก” เป็นสร้อยพระนํามของ กษัตริย์พม่ําท่ีต้องกํารกล่ําวถึงควํามสัมพันธ์ระหว่ํางพระองค์กับศําสนํา แต่โบรําณมํากษัตริย์พม่ํา ได้คัดสรรคําสอนในพุทธศําสนํามําใช้เป็นหลักปฏิบัติในกํารอ้ํางอิงตนเองเพื่อให้เข้ําถึงอุดมคติ ทั้งในทํางโลกและทํางธรรม ดังเห็นได้จํากเหตุกํารณ์สวรรคตของพระเจ้ํามินดงที่สะท้อนให้เห็น แนวคิดทํางศําสนําท่ีส่งอิทธิพลต่อกํารกําหนดกรอบคิดและวิธีกํารเตรียมพระองค์ก่อนเข้ําสู่วําระ สุดท้ํายแห่งพระชนม์ชีพ ด้วยฐํานะกํารเป็นศําสนทํายกําผู้บําเพ็ญบํารมีมําดีแล้วเชื่อว่ําจะนําพําให้ พระองค์กลับไปสู่สวรรค์บรมสุข ดังปรํากฏอยู่ในโกงบ่องแซะก์มหายาซาวีงดอจี เล่ม ๓ (1989: 439-440) ควํามว่ํา
“...ในปีนั้น [พ.ศ.๒๔๐๙] เดือนกันยายน พระเจ้าช้างเผือกมหาธรรมราชา มพี ระโรคเวทนามไิ ดถ้ อยทเุ ลา พระมเหสแี มเ่ จา้ ชา้ งเผอื ก กบั วงั หนา้ พระมหาอปุ ราชา มหาเสนาบดี ขุนวัง กับทั้งผู้มีตาแหน่งในราชการท้ังหลายต่างจัดข้าว น้า ดอกไม้ พร้อมประทีปท้ังหลายไปถวายบูชาแด่พระมหาเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธ์ิ และ พระพุทธรูปทั้งหลายทั่วในพระนครมิได้ขาด ทั้งปล่อยปลดลดโทษคนผู้ละเมิด ราชวตั รเสยี จากคกุ และพนั ธนาการทงั้ หลายไมเ่ อาชวี ติ ... แตค่ รนั้ พระอาการไมท่ เุ ลา พระมหากษัตริย์เจ้าก็ทรงวางพระทัยให้เห็นเป็นธรรมดาไม่ทรงนึกถึง
ปี ๑๒๔๐ [พ.ศ.๒๔๒๑] เดือนตุลาคม ข้างขึ้น วันอังคารท่ี ๖ เวลาเช้า ๒ แชะก์ตี ราว ๖ โมง ทรงหน่ายมนุษยโลกเสด็จประทับสาราญยังสวรรค์ ในเวลาก่อน สวรรคต ทรงสะกดกลั้นพระเวทนาไว้ให้ถอยทุเลาด้วยไตรลักษณ์ อนุสติสิบ อสุภ กรรมฐาน กาหนดไว้ในพระทัยเสมอ ครั้นพระราชทานโอวาทแก่บรรดาผู้ถวาย การดูแล... แล้วก็เสด็จสวรรคตด้วยพระอาการสงบ...”
พระบรมรปู ของพระเจํา้ มนิ ดงทหี่ นํา้ วดั กโุ สดอ เมอื งมณั ฑะเลย์ (Yarzaryeni 2017)
เสด็จสู่แดนสรวง
3๘๒ ศิลปะ ประเพณี และความเช่ือในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ


































































































   382   383   384   385   386