Page 260 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 260

๑๐๔                                             ธรรมะบรรยาย

                                                                  ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
               ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔




                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้ก็ต้องสวดอนัตตลักขณสูตรเช่นเคย การสวดบทอนัตตลักขณสูตรนี้

                                                                                      ็
               เป็นเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้แก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ จนสำเร็จเปนพระอรหันต์ ก่อนที่
               พระพุทธเจ้าจะแสดงอนันตลักขณสูตรนั้น  พระพุทธเจ้าได้แสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตรคือจักรแห่ง

               ธรรมหมุนเข้าไปสู่จิตของปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เริ่มตั้งแต่พระองค์ทรงประกาศว่า พระองค์ได้ทรงตรัสรู้

               เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ได้ชี้แจงว่าบรรพชิตหรือว่าผู้ปฏิบัติไม่ควรให้การปฏิบัตินั้นสุดขอบ


               ทั้งซ้ายทั้งขวาซ้าย   หมายความว่าอาจจะหลงไปในทางทรมานร่างกาย  ให้ทุกข์ยาก  ให้ลำบาก
               จนกระทั่งทำให้ร่างกายนี้ทุพพลภาพ  นี่คือซ้ายเกินไป  แต่ว่าถ้าว่าขวาเกินไปก็จะติดสุขสบาย  ใน

               ที่สุดก็เกิดเป็นคนขี้เกียจ เมื่อเป็นคนขี้เกียจ ก็ไม่อยากจะปฏิบัติอะไรนี่ ก็คือมันสุดขอบทั้งซ้ายและ

               ขวา ทางซ้ายก็สุดขอบ ทางขวาก็สุดขอบ มันก็เป็นเหตุให้ไม่สมดุล พระพุทธเจ้าท่านได้เสวยทั้งสอง

               อย่างมาหมดแล้ว  สมัยที่พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ  พระองค์ก็อยู่ในพระราชวังก็ทรงเสวย

               เรื่องกามสุขัลลิกานุโยค  คือการได้ประกอบตัวตนของท่านนี่ ใช้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กามคุณ ๕

               ครบ พระองค์ก็รู้หมดแล้วจนได้เกิดความเบื่อหน่าย พอมาบวช พระองค์ก็ทรงปฏิบัติอย่างเข้มงวด

               เรียกว่า  สุดขอบ  ทรมานร่างกายอย่างสุด  ๆ  จนพระองค์นั้นได้สลบไป  ๒-๓  ครั้ง  และในที่สุด

               พระองค์ก็ได้ทรงทราบว่าการที่ปฏิบัติสุดขอบนี่มันผิดทั้ง  ๒  ทาง  ทางหนึ่งก็คือทรมานร่างกาย

                                                         ่
               ร่างกายมันก็รับไม่ไหว สุดท้ายมันก็สลบหรือวาอาจจะเกิดทุพพลภาพได้ ส่วนอีกทางหนึ่ง มันก็หลง
               ในรูป เสียง กลิ่น รสมากเกินไป มันก็ทำให้มัวเมาและก็ขี้เกียจ มันก็สุดขอบไปอีกแบบหนึ่งและใน

               ที่สุดพระองค์ก็มานั่งสมาธิ ตรวจดูจิตว่าการทำสมาธินี่เองจะปรับความสมดุลทั้งสองอย่างนั้น พระ

               พุทธองค์จึงตรัสรู้มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและมาประกาศอริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

               อันที่เป็นทางที่พอเหมาะพอดีกับทุก  ๆ  คน  ถ้าไม่เข้าใจเรื่องความพอดี  อันนี้ก็จะทำให้เราหลงไป

               ทางใดทางหนึ่ง

                     เพราะฉะนั้น การปฏิบัตินี่เองจะเป็นการบ่งบอกว่าความพอดีมันอยู่ตรงไหน เราฟังเอานี่ มัน

               เข้าใจก็เหมือนเราไปเรียนขับรถ  ครูได้สอนว่าหมุนพวงมาลัยอย่างนี้  หมุนพวงมาลัยอย่างนั้น

               เหยียบเบรกอยางนี้  เหยียบคลัชอย่างนี้  แต่ไม่เคยไปทดสอบขับเลย  คนขับนั้นเข้าใจแต่ว่ามันเป็น
                             ่


                                                          ๒๖๐
   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264   265