Page 354 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 354

่
               โรคบ้าง พระพุทธเจ้าว่ารางกายนี้เป็นรังของโรค เพราะฉะนั้น ทุกส่วนเป็นโรคได้ แต่เราก็สามารถ
               รักษาได้ระดับหนี่ง เพราะฉะนั้น เมื่อวิจัยแล้วก็พยายาม “วิริเยนะ” ก็คือพยายามวิจัยบ่อย ๆ ว่า

               ร่างกายนี้ทุกส่วนเป็นรังของโรค        ไม่มีใครไม่เป็นโรคมันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นเรื่องธรรมดา

                                ่
               พระองค์ให้วิจัยอยางนี้และก็วิจัยย่อย ๆ ด้วย
                     เพราะฉะนั้น วิจัยอันดับแรกก็คือรู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องกังวลว่าร่างกายส่วนนั้นเป็นโรค

               เราก็มาเยียวยาใจของเราอย่าให้ใจเป็นโรค กายเป็นโรคแล้วอย่าให้ใจเป็นโรค เพราะอะไร ถ้าหาก

               เราไปกังวลมากไปใจจะไปกระตุ้นสารชนิดหนึ่งเรียกว่า  “อะดรีนาลีน”  สารแห่งความทุกข์หรือไป

               กระตุ้นเซลล์ทำงานหรือประสาททำงานแล้วก็ไปหลั่งสาร “อะดรีนาลีน” สารแห่งความทุกข์ ทำให้

                           ้
               เกิดความเศรา ทำให้เกิดเกิดลมเสียหรือเลือดลมไม่ดี น้ำไม่ดี ไฟไม่ดีก็ป่วยได้ เพราะว่าร่างกายนี้มี
               ภูมิต้านทาน  แต่ภูมิต้านทานลดคุณภาพลงไป  ๆ  ต้านไม่ไหวก็ป่วย  นี้คือสติก็ต้องมากำหนดรู้ลม

               หายใจเข้าออก ลมเข้าก็รู้ ลมออกก็รู้ ทำบ่อย ๆ ทำจนกว่าจะเกิดปีติ ทำอย่างนี้แหละ ถ้าเกิดปีติ

               เมื่อไรนั้นคือยาออกฤทธิ์แล้ว  ยาออกฤทธิ์คือเกิดปีติ  เกิดความเอิบอิ่ม  เกิดความเบิกบานใจ  เกิด

               ความโล่งใจ เกิดความสบายใจ เกิดความสุขใจ นี้คือยาออกฤทธิ์

                     เมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว “ปัสสัทธิ” คือความสงบใจเกิดขึ้น เพราะว่าร่างกายนี้ได้เยียวยาอย่างดี

               แล้วก็เหมือนยาที่เราฉีดเข้าไปวัคซีนนี้บางเข็ม บางยี่ห้อ ใช้เวลา  ๒ อาทิตย์ บางยี่ห้อก็ใช้เวลา ๓

               อาทิตย์  บางยี่ห้อก็  ๓  เดือน  กว่าจะสร้างภูมคุ้มกันขึ้นมาได้  ยาพระพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน

               เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายก็ต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคนั้น

               โรคนี้ เป็นไปแล้วไม่ต้องไปกังวลจะไปซ้ำเติม เพราะฉะนั้น เรามาระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก ลมเข้าก็

               รู้ ลมออกก็รู้ เป็นอันว่า “ปัสสัทธิ” คือจะสงบได้ก็เมื่อจิตเกิดปีติ ภาษาอังกฤษเรียกว่า “สารเอ็นโดร

                                                             ี
               ฟิน” หลั่งออกมาสารแห่งความสุข พระพุทธเจ้าเรยกว่าปีติ ความเอิบอิ่ม ความเบิกบานใจ ความสุข
               ใจ ความสบายใจ ความโล่งใจเกิดขึ้นมา

                     “ปัสสัทธิ”  คือความสงบใจเกิดขึ้น  เมื่อปัสสัทธิเกิดขึ้น  สมาธิเชื่อมั่นตั้งมั่นว่าโรคหายแน่

               “อุเบกขา” ก็เข้าทันทีนี้แหละ ยาออกฤทธิ์แล้ว เราหายแน่ เกิดความมั่นใจ เกิดความเข้าใจอยาง
                                                                                                       ่
               ถ่องแท้ เพราะฉะนั้น โพชฌงค์ ๗ นี้จะเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด ท่านทั้งหลายไม่มีใครไม่เป็นโรค ในโลกนี้

               ไม่มีใครไม่ตาย  แต่ว่าเรารู้จักรักษาไว้ปลอดภัยไว้กว่า  อย่าให้เป็นโรคทางจิตเลย  โรคทางจิตเป็น

               อย่างไร ขี้วิตกจริต ขี้เบื่อ ขี้เซ็ง ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ ขี้บ่น อันนี้คือโรคโควิดใจ อย่าให้เข้ามา

               สู่ใจของเรามานัก  เอาสติมาระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก  ให้มีองค์ประกอบของโพชฌงค์  อันได้แก่

               องค์ประกอบของผู้รู้ รู้อะไร รู้ลมหายใจเข้าออก เพราะฉะนั้น จึงมีคำพูดว่า “ภาวิตา พหุลีกตา”



                                                          ๓๕๔
   349   350   351   352   353   354   355   356   357   358   359