Page 349 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 349

กราบ  ฤาษีพระเพื่อนไม่ว่าอะไรเลย  “เอ้าทำไมพระเพื่อนไม่อวยพรให้ลูกบ้างละ”  “อวยพรไม่ได้

               หรอก ลูกของเพื่อนมีอายุแค่ ๗ วันเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็ตายแล้ว” “อุ้ยทำไมเพื่อนว่าอย่างนี้” “เอ้า

               ฉันมีญาณหยั่งรู้ว่าเพื่อน ลูกของท่านคงอยู่ได้ ๗ วันเท่านั้นแหละ เขาต้องสิ้นชีวิตแน่นอน” “เพื่อน

               พูดจริงหรือเปล่านี่”  “จริง  ฉันรู้  ฉันจึงเดินทางมานี่ไง  มาบอกเพื่อน”  “เอลูกของฉันนี่เหมือนกับ

               แก้วตาดวงใจเลยนะเพื่อน อย่างไรก็ตามช่วยฉันหน่อย” พระเพื่อนก็บอกว่า “ฉันนี่รู้อย่างเดียวแต่

               ไม่รู้วิธีแก้” “เอ้า ในโลกนี้มีใครบ้างรู้วิธีแก้ด้วย” “คิดว่ามีพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นละที่ทราบ”

               “ท่านอยู่ไหน” “โน่นวัดพระเชตวัน” “ถ้าเราไปที่โน่น มันจะไม่เสียการเคารพนับถือหรือ” “อย่าไป

               คิดอย่างนั้นเลย”  “เราเป็นคนละลัทธิกันนะ”  “อย่าไปคิดอย่างนั้น  จะเอาลูกอยู่หรือว่าจะยอม

               เสียสละความนับถือ อยากให้ลูกมีชีวิตอยู่หรือเปล่า” “อยากให้อยู่” “ถ้างั้นก็ไปกราบพระพุทธเจ้า

               สิ” “เอาอย่างนั้นรึ” “อย่างนั้นละแกต้องไป”

                     พอไปแล้วก็ไปกราบพระพุทธเจ้า กราบเหมือนเดิม สามีกราบพระพุทธเจ้าก็ “ขอให้อายุมั่น

               ขวัญยืน  นะโยมนะ”  ประมาณนี้  ภรรยาเขาก็กราบ  “ขอให้โยมมีอายุมั่นขวัญยืนนะ”  ให้ลูกชาย

               กราบ พระพุทธเจ้าก็ทรงนิ่งไม่ตรัสอะไรเลย พ่อของเด็กก็เลยกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า “อ้าวทำไม

               พระองค์ไม่อวยพรให้แก่ลูกชายข้าพเจ้าบ้าง”  พระพุทธเจ้าก็ตรัสเหมือนกับพระเพื่อนนั่นแหละว่า

               “ลูกชายของท่านจะมีอายุแค่  ๗  วันเท่านั้นเอง”  ตรงกับเพื่อนละทีนี้  “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญช่วย

               กระผมด้วยเถิด  ลูกผมมีคนเดียวกระผมรักเขามาก  รักเขามาก  ๆ  เหมือนแก้วตาดวงใจเลย  ขอ

               พระองค์ได้โปรดเมตตาให้ชีวิตแก่ลูกชายด้วยเถิด”  พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า  “ถ้าเธอทำสิ่งที่เราบอก

               ต่อไปนี้ ถ้าเธอทำได้ ลูกของท่านก็จะไม่ตาย” “นิมนต์พระองค์บอกด้วยเถิด ทำยังไง” “เธอต้องไป

               ทำปะรำที่บ้าน แล้วก็นิมนต์พระสงฆ์ไปสวดพระปริตร ๗ วัน วันที่ ๘ ก็จะปลอดภัยแล้ว”

                                                                                         ู่
                     พราหมณ์คนนั้นก็เลยกลับบ้านรีบทำปะรำพิธีขึ้นมา  แล้วก็ให้ลูกชายนั่งอยบนตั่ง  พระสงฆ์ก็
               นิมนต์ไปนั่งล้อมเป็นวงกลมนะ ๘ รูป ๑๖ รูป ๓๒ รูป ประมาณนี้แล้วพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

               พระสงฆ์ก็สวดมนต์ สวดพระปริตรนี้ สวด ๓ วัน ๕ วัน ๖ วัน ๗ วัน วันสุดท้ายพระพุทธเจ้าเสด็จมา

               เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาปรากฏว่า ท้าวสักกะเทวราชก็มา ท้าวจตุโลกบาลก็มา เทวดามาห้อมล้อม

               ไอ้คนที่จะมากินเด็กชื่อว่า “อวรุทธกยักษ์” เป็นยักษ์ที่ได้รับพรจากท้าวเวสสุวรรณว่าแกต้องไปกิน

               เด็กคนนี้ภายใน ๗ วัน ถ้าเลย ๗ วันแล้ว พรที่ให้มานั้นมันจะเสื่อม พระพุทธเจ้ารู้อย่างนี้ก็เลยให้

               พระสงฆ์ไปสวดมนต์  พอพระสงฆ์สวดมนต์ครบ  ๗  วันพระพุทธเจ้าเสด็จมาด้วย  ยักษ์ที่จ้องจะจับ

               เด็กไปกิน ก็ไม่มีโอกาสสักที พอสว่างแล้วปรากฏว่ายักษ์ตัวนั้นก็หมดคำอวยพรของท้าวเวสสุวรรณ

               ก็คือไม่มีโอกาสได้เข้ามาจับเด็กกินเลย



                                                          ๓๔๙
   344   345   346   347   348   349   350   351   352   353   354