Page 348 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 348

ก็ขอให้ทุกท่านได้ทราบไว้ว่าการทำบุญอุทิศให้นี้ มันมีผลจริง แล้วก็ไม่ต้องรอให้ญาติพี่น้องที่

               ยังมีชีวิตอยู่อุทิศบุญให้เราไปนะเราทำไว้ก่อน  อย่างที่วัดเทพเจติยาจารย์นี่  พาท่านทั้งหลายสวด

               มนต์ทุกวัน ๆ ท่านทั้งหลายก็ไปชวนกันเข้ามานะ ชวนกันมาสวดมนต์ อย่าไปหวังคนอื่น อย่าไปหวัง

               พี่ หวังน้อง หวังสามี หวังภรรยาหรือหวังใคร ๆ ต้องทำเอาเองก่อน ทำให้มันได้เต็มที่ เราจะได้ไม่

               คาดหวังกับญาติพี่น้องที่มีชีวิตอยู่  ถ้าเราไปแล้วก็ให้มันพร้อมมีเสบียงบุญพร้อม  สวดมนต์เราก็ได้

               สวดแล้ว นั่งสมาธิเราก็ได้นั่งแล้ว เดินจงกรมเราก็ได้ทำแล้ว อย่างนี้ ทำบุญให้ทานเราก็ทำแล้ว สร้าง

                                   ้
               วัดสร้างโรงเรียน  สรางถนนหนทาง  หรือว่าบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ที่ป่วยโควิด  เราก็ทำแล้วอย่างนี้
                                                                ื่
               ต้องคิดอย่างนี้ ทำไว้ก่อน สะสมเสบียงบุญไว้ก่อน เพอให้เป็นเสบียงบุญให้แก่เราข้ามภพข้ามชาติ
                     ต่อไปนี้ก็เป็นการสวดพระปริตร การสวดพระปริตรนี้ก็เป็นเรื่องราวของอายุวัฑฒนกุมาร เขา

               เป็นคนที่เกิดมา  พ่อของเขาเป็นนักบวช  ก็คือเป็นฤาษีแต่ตระกูลของเขาเป็นตระกูลร่ำรวยก็เที่ยว

               สนุกสนานเพลิดเพลินอยู่ในความเป็นมนุษย์นี่ ๔๐ กว่าปีก็เลยเกิดความเบื่อหน่าย พอเบื่อหน่ายก็

               ไปเป็นฤาษี ๒ คนนะ เป็นเพื่อนกันพอไปบวชแล้ว คนหนึ่งทนไม่ไหว นั่งสมาธิแล้ว เดินจงกรมก็แล้ว

               ไม่เห็นเกิดมรรคเกิดผลอะไรเลย ทำเหมือนเดิม สวดมนต์ก็สวดเหมือนเดิม นั่งสมาธิก็นั่งเหมือนเดิม

               เดินจงกรมก็เดินเหมือนเดิม ทำเก่า ๆ นี่ละทำเหมือนเดิมนี่ละ เลยเบื่อ โอ ไม่เห็นได้อะไรเลย เดิน

               กลับไปกลับมาเดินกลับไปกลับมา วันไหนก็หายใจเข้า วันไหนก็หายใจออก หายใจเข้าหายใจออกก็

               เกิดความเบื่อหน่าย โอ ไม่เห็นก้าวหน้าอะไรเลย “โอ้ว ไม่ไหวแล้วเพื่อนเอ๊ย ฉันทำมาปีสองปีแล้ว

               เพื่อนก็พาเดินจงกรมพานั่งสมาธิ ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ตอนเช้าก็มาสวดมนต์ ตอนเย็นก็สวดมนต์

               ฉันคิดว่ามันไม่ได้อะไรเสียเวลา”  เพื่อนบอก  “อย่าคิดอย่างนั้น  เลยมาออกบวชแล้วก็อยู่ต่อไป

               เถอะ” “โอ ไม่ไหว ๆ ฉันเบื่อ ฉันนั่ง ๆ นอน ๆสวดมนต์แล้วก็แล้ว อะไรก็แล้ว ไม่เห็นมันเกิดเป็น

               พระอรหันต์เลย ฉันคิดว่ามันไม่ได้บรรลุหรอกชาตินี้ ฉันขอลา ฉันอยากลาสิกขาแล้ว” เพื่อนก็บอก

               “เอ้า ถ้าทนไม่ไหวแล้ว ลาก็ลา” ก็ลาสิกขา

                     ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งก็ไม่ลา  เขาก็สวดมนต์  เดินจงกรมนั่งสมาธิของเขาอยู่อย่างนั้นแหละ

               เพื่อนที่ลาสิกขาก็มาแต่งงาน พอแต่งงานแล้วก็อยู่มาไม่นานก็ได้ลูกผู้ชายคนหนึ่งพอได้ลูกผู้ชายแล้ว

               ก็ดีใจ ก็คิดถึงเพื่อนละทีนี้ เราอยากจะให้เพื่อนเราเห็นเหลือเกิน มาอวยพรวันเกิดลูกชาย ทำยังไง

               หนอเพื่อนของเราถึงจะมา ถ้าจะเดินทางหาเพื่อนก็ลำบาก ปรากฏว่าเพื่อนมา พอเพื่อนมาก็แล้วก็

                              ้
                                                                                                        ้
               ทราบข่าว  “เอา  แม่ไปกราบพระเพื่อน”  ธรรมเนียมของสมัยก่อนเขาจะไม่กราบพร้อมกันนะเอา
                                                            ุ
               สามีกราบ พระเพื่อนก็บอกว่า “เอวัง โหตุ อาย วัณโณ สุขัง พลัง” ขอให้เพื่อนอายุยืนยาวนะมี
               ความสุขมาก ๆ พอภรรยากราบ “อ้าวขอให้โยมมีความสุขความเจริญอายุยืนยาวนะ” อ้าว ลูกชาย



                                                          ๓๔๘
   343   344   345   346   347   348   349   350   351   352   353