Page 131 - การสำรวจภาพถ่าย Photogrammetry

101
= ()()() = ()()()
จัดรูปสมการที่ 4-15 และ 4-16 ใหมจะไดเปนสมการที่ 4-17 และ 4-18
()()() ()()()
(4-17) (4-18)
จากรูปท่ี 4-1 จะไดวา = − ดังน้ัน จึงสามารถที่จะแทนคา ในสมการท่ี 4-17 และ 4-18 ไดสมการที่ 4-19 และ
4-20ดังนี้
= − ()()() = −
(4-19) (4-20)

( ) ( ) ( ) ()()() ()()()
และเมื่อนําเอาคาจุดมุขยสําคัญเขามารวมกับ สมการที่ 4-19 และ 4-20 จะใหไดสมการที่ 4-21และ 4-22 ซึ่งจะเรียกวา สมการสภาวะรวมเสน ดังนี้
= −
( ) ( ) ( ) =−
(4-21) (4-22)
และ , , , ω, , แทนองคประกอบภาพถายภายนอก (Exterior Orientation Parameters)
4.2 การรังวัดพิกัดบนภาพถาย (Image Mensuration)
กรรมวิธีในการรังวัดพิกัดบนภาพถายนั้นมีความสําคัญอยางยิ่งตอการสํารวจดวยภาพถาย ทั้งนี้เพราะจะทําใหไดคา สังเกตหรือคารังวัดที่สําคัญตอสมการสภาวะรวมเสน โดยจากสมการ 4-21 และ 4-22จะพบวา คา และ คือ คาพิกัด ของภาพถายที่สามารถนํามาใชคาสังเกตในกระบวนการปรับแกดวยวิธีลีสตแสควรดวยวีธีสมการคาสังเกตกลาวคือ จากสมการ ที่ 2-2 ที่วา = F(X) เมื่อ Laเปนเวคเตอรคาสังเกต และ F(Xa) เปนฟงกชั่นของพารามิเตอรไมทราบคาตาง ดังนั้น เมื่อ วิเคราะหสมการที่ 4-18 และ 4-19 จะไดวา La = { , , , , , , ... , , } เมื่อ a1, a2, a3, ..., anแทนเซตของจุด (x, y) ของวัตถุตางๆบนภาพถายแตละใบ และ F(Xa) คือฟงกช่ันของสมการสภาวะรวมเสน
โดยเหตุนี้เอง การวัดพิกัดภาพของวัตถุตาง ๆ บนภาพจึงเปน ขั้นตอนที่ถือไดวามีความสําคัญอยางยิ่งตอการสํารวจ ดวยภาพถาย โดยหากพิจารณาที่สมการสภาวะรวมเสนแลวจะเห็นชัดวา ความถูกตองที่ไดรับจากกระบวนการวัดพิกัดบน ภาพถายมีผลโดยตรงตอคุณภาพของการสํารวจดวยภาพถาย ดังนั้น การรังวัดพิกัดบนภาพถายนั้นจึงตองกระทําอยางพิถีพถิ ัน เพื่อใหไดงานที่มีคุณภาพ ซึ่งการรังวัดพิกัดบนภาพถายนี้ตองทําการวัด กับวัตถุที่เปนจุดควบคุมภาพถาย จุดผานและจุดโยงยึด โดยทั่วไปแลวนั้น สามารถแบงกรรมวิธีที่ใชในการรังวัดพิกัดบนภาพถายไดเปน 3 แบบดังนี้

()()() ()()() ()()()

เมื่อ = (ω, , )แทนเมตริกซการหมุนระบบแกน xyz เปนระบบแกน x’y’z’
ผศ.ดร.ชาติิชาย ไวยสุุระสุิงห์์
101