Page 61 - Chiang rai medical journal
P. 61
นิพนธ์ต้นฉบับ
การประเมินผลการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีจังหวัดเชียงราย
ตามโครงการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จย่าต้านภัยมะเร็งเต้านม
การวิเคราะห์ข้อมูล อภิปรายผล
ข้อมูลเชิงพรรณนา (Descriptive) ด้วย การประเมินความรู้เกี่ยวกับวิธีการ
ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ตรวจเต้านมด้วยตนเอง ส่วนใหญ่สามารถตอบ
ผลการศึกษา ค าถามได้อย่างถูกต้อง พบว่าข้อที่ตอบได้ถูกต้อง
ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มากที่สุด คือ การตรวจเต้านมด้วยตนเองควร
ส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่าง มีระดับการศึกษา ตรวจทุกเดือน ตอบถูก ร้อยละ 82.67
ประถมศึกษา ร้อยละ 70.50 สถานภาพสมรส จากการสอบถามข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่ได้รับ
ร้อยละ 81.50 รายได้ต่อเดือน รายได้ต่อเดือน ความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
คือ ต่ ากว่า 5,000 บาท ร้อยละ 57.80 จากอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน
เคยได้รับความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ร้อยละ ซึ่งเป็นบุคลาการทางด้านสาธารณสุขที่ใกล้ชิด
86.00 ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเคยตรวจ และเป็นบุคคลที่คอยย้ าเตือนกลุ่มตัวอย่างให้
เต้านมด้วยตัวเองร้อยละ 82.25 ตามล าดับ ตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจ าทุกเดือนและ
(ตารางที่ 1) ความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจ เช็คสมุดบันทึกการตรวจเต้านมด้วยตนเองของ
เต้านมด้วยตนเองกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ กลุ่มตัวอย่างอยู่สม่ าเสมอจึงท าให้กลุ่มตัวอย่างมี
สามารถตอบค าถามความรู้เกี่ยวกับวิธีการ ความรู้เรื่องระยะเวลาในการตรวจเต้านมด้วย
ตรวจเต้านมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง ค าถาม ตนเองว่าควรตรวจเป็นประจ าทุกเดือน
ข้อที่ 1 วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง วิธีปฏิบัติในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง พบว่า
ส่วนใหญ่ตอบถูก คือ ดูด้วยตาและคล าด้วยมือ กลุ่มตัวอย่างที่ปฏิบัติครบทั้ง 8 ข้อ คิดเป็น
ร้อยละ 65.96 ข้อที่ 2 การตรวจเต้านม ร้อยละ 34.95 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
ด้วยตนเองควรตรวจหลังหมดประจ าเดือน ดังนั้น วิธีปฏิบัติในการตรวจเต้านม
7-10 วัน ส่วนใหญ่ตอบถูกร้อยละ 72.95 และ ด้วยตนเอง เมื่อเทียบกับเกณฑ์พบว่า
ข้อที่ 3 การตรวจเต้านมด้วยตนเองควรตรวจ ประสิทธิผลอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง เมื่อ
ทุกเดือน ส่วนใหญ่ตอบถูก ร้อยละ82.67 พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า วิธีปฏิบัติในการตรวจ
ตามล าดับ (ตารางที่ 2) เต้านมด้วยตนเองที่ กลุ่มเป้าหมายสามารถ
การปฏิบัติการตรวจเต้านมด้วย ปฏิบัติได้ถูกต้องมากที่สุด คือ ยกมือขึ้นเหนือ
ตนเองพบว่ากลุ่มตัวอย่างสามารถปฏิบัติครบ ศีรษะ คิดเป็นร้อยละ 50.75 อาจเนื่องมาจาก
ทั้ง 8 ข้อ มีทั้งหมด 115 คน คิดเป็น ร้อยละ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ และมีระดับการศึกษา
34.95 ดังนั้นวิธีปฏิบัติในการตรวจเต้านมด้วย ส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถมศึกษาจึงท าให้ไม่
ตนเอง เมื่อเทียบกับเกณฑ์พบว่า ประสิทธิผล สามารถจ าวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเองได้ครบ
อยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง เมื่อพิจารณาเป็นราย ทุกขั้นตอน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาหลาย
ข้อ พบว่า วิธีปฏิบัติในการตรวจเต้านมด้วย การศึกษาที่พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มี
ตนเองที่กลุ่มเป้าหมายสามารถปฏิบัติได้ พฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองโดยรวมอยู่
4
ถูกต้องมากที่สุด คือ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ คิด ในระดับไม่ดี และมีทักษะการตรวจเต้านมด้วย
5
เป็นร้อยละ 50.75 (ตารางที่ 3) ตนเองไม่ถูกวิธีคิดเป็น ร้อยละ 98.40
ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑/๒๕๖๐ 61
