Page 217 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 217
ส่วนที่ ๓ หน้า ๒๐๕
ิ
จากการพจารณาศึกษาแนวทางการคุ้มครองและรับรองสิทธิของบุคคลผู้มีความหลากหลาย
ทางเพศ คณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกต ดังนี้
๑. คณะรัฐมนตรีควรต้องเร่งผลักดันให้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการรับรองเพศ ค าน าหน้า
นาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ อย่างเร่งด่วน โดยน าหลักการที่คณะกรรมาธิการ
ได้พิจารณาศึกษายกร่างไว้เป็นแนวทางในการด าเนินการ
๒. คณะรัฐมนตรีควรต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการบัญญัติค าว่า “ผู้มีความหลากหลาย
ทางเพศ” “อัตลักษณ์ทางเพศ” “เพศสภาพ” และ “เพศวิถี” ตามหลักการความเข้าใจเรื่องเพศโดยไม่จ าเป็น
ต้องค านึงถึงเพศทางกายภาพ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า SOGIESC
๓. คณะรัฐมนตรีและกระทรวงสาธารณสุขควรสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งคลินิก
การแพทย์ที่ให้ความรู้และให้บริการด้านสุขภาพและสุขภาวะทางเพศที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันโรคต่าง ๆ
ื้
การใช้ฮอร์โมน การตรวจสุขภาพ ส าหรับกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศในพนที่ต่าง ๆ ที่เป็น
รูปธรรมมากยิ่งขึ้น
๔. คณะรัฐมนตรีและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรมีนโยบายและ
มาตรการในการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับเชื้อ HIV เพื่อลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติโดย
ไม่เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อ
๕. การมีกฎหมายว่าด้วยการรับรองเพศ ค าน าหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มี
ความหลากหลายทางเพศ จะส่งผลให้รัฐมีข้อมูลของเพศหลากหลายมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่องาน
ด้านวิชาการที่จะสามารถศึกษาพฤติกรรมของเพศที่มีความเหลื่อมล้ าในด้านต่าง ๆ ดังนั้น คณะรัฐมนตรี
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางนโยบายและแผนการด าเนินงาน เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ
ที่เป็นรูปธรรมต่อไป รวมถึงควรต้องจัดสรรงบประมาณให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบาย
ในด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศดังกล่าว
๖. การมีกฎหมายดังกล่าวจะมีผลท าให้รัฐมีข้อมูลของเพศหลากหลายมากขึ้น ส านักงาน
ต ารวจแห่งชาติ ส านักงานอัยการสูงสุด ส านักงานศาลยุติธรรม และกระทรวงยุติธรรม ควรมีการพิจารณา
ตั้งผู้เชี่ยวชาญส าหรับการด าเนินคดีในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ
เป็นการเฉพาะ ซึ่งอาจจะมาจากผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเพศ เพศวิถี อัตลักษณ์ทางเพศของ
บุคคล ดังเช่นในสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่มีการตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
๗. กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการคลัง ควรก าหนดให้การรับบริการ
ด้านสุขภาพของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิประกันสังคม
สิทธิเบิกจ่ายตรงของกรมบัญชีกลาง โดยให้ครอบคลุมทั้งการผ่าตัดแปลงเพศ การใช้ฮอร์โมนของบุคคลข้ามเพศ
การใช้ยาป้องกันไวรัส HIV Prep และ PEP การรับค าปรึกษาด้านสุขภาพ
๘. กระทรวงมหาดไทยต้องให้ทางเลือกในการใส่หรือไม่ใส่ค าน าหน้าในการออกบัตรประจ าตัว
ประชาชนให้แก่คนทุกเพศ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจ าตัวประชาชน ซึ่งไม่ได้ก าหนดให้
ค าน าหน้านามเป็นรายการที่ต้องระบุในบัตรประจ าตัวประชาชน
๙. กระทรวงยุติธรรมควรด าเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินการควบคุม
ิ
หรือฝึกอบรมเด็กและเยาวชนที่ต้องหาว่าเป็นผู้กระท าความผิดหรือเป็นจ าเลย หรือเป็นผู้ต้องค าพพากษา
หรือค าสั่งของศาลให้ลงโทษหรือใช้วิธีการส าหรับเด็กและเยาวชน โดยให้มีการก าหนดให้สถานพนิจเด็ก
ิ
และเยาวชน ศูนย์ฝึกและอบรม สถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะน าทางจิตมีการจัดแยกเด็ก
หรือเยาวชนตามเพศตามแนวทางของร่างพระราชบัญญัตินี้