Page 216 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 216

หน้า ๒๐๔                                                                             ส่วนที่ ๓



                                ๓) สิทธิในการเลือกเพศและการเลือกใช้ค าน าหน้านามของบุคคลเพศก ากวม กรณีบุคคลเพศ

               ก ากวมยังมิได้เลือกค าน าหน้านามเป็น เด็กชายหรือเด็กหญิง เมื่อตนมีอายุครบเจ็ดปีบริบูรณ์ขึ้นไป เมื่อ
               บุคคลเพศก ากวมรายนั้นมีอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์ขึ้นไปแล้ว ให้มีสิทธิเลือกหรือไม่เลือกค าน าหน้านามเป็น
               นายหรือนางสาว อย่างใดอย่างหนึ่งในบัตรประจ าตัวประชาชน

                                ๔) การเปลี่ยนค าน าหน้านามในครั้งต่อไปของบุคคลเพศก ากวม ในกรณีเด็กเพศก ากวม
               หรือบุคคลเพศก ากวม ได้เลือกค าน าหน้านามแล้ว กรณีที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงค าน าหน้านามที่ตน
               ได้เลือกไว้ดังกล่าว ต้องยื่นค าร้องขออนุญาตเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนค าน าหน้านามต่อศาลเยาวชนและ

               ครอบครัว ศาลจะพิจารณาโดยใช้กรอบและหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ส าหรับบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ
                           ๑๒. การรับรองและคุ้มครองสิทธิของบุคคลเพศก ากวม ก าหนดสิทธิเรื่องต่าง ๆ ไว้ ดังนี้
                                ๑) สิทธิเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
               ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่รับเฉพาะบุคคลเพศก าเนิดชายหรือสถานศึกษาที่รับเฉพาะบุคคลเพศก าเนิดหญิงตาม

               เจตจ านงอัตลักษณ์ทางเพศของตน
                                ๒) สิทธิเข้ารับการศึกษาในสถาบันการอาชีวศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา

               อันเป็นสถาบันที่ให้การศึกษาอบรมวิชาชีพเฉพาะทางและเป็นสถาบันที่รับเฉพาะบุคคลเพศก าเนิดชายหรือ
               บุคคลเพศก าเนิดหญิงเข้าศึกษาอบรมตามเจตจ านงอัตลักษณ์ทางเพศของตน
                                ๓) สิทธิสมัครและเข้ารับการศึกษาเป็นนักศึกษาวิชาทหารตามที่ก าหนดไว้ในกฎหมาย
               ว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร

                                ๔) สิทธิสมัครและเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา
               ที่จัดการเรียนการสอนด้านการทหารหรือด้านต ารวจ
                                ๕) สิทธิสมัครงานและเข้าท างานในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่น

               ซึ่งประกาศรับสมัครและก าหนดลักษณะการปฏิบัติหน้าที่ตามเพศก าเนิด โดยก าหนดให้ส่วนราชการ
               รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่นนั้น พิจารณารับสมัครบุคคลเพศก ากวมตามเพศสภาพที่แสดงออก
                           ๑๓. การสมรสของบุคคลเพศก ากวม ก าหนดหลักการในเรื่องการแจ้งคู่สมรสอีกฝ่ายให้ทราบ

               และการได้รับความยินยอมไว้เช่นเดียวกับกรณีการสมรสของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ได้รับ
               การรับรองเพศ
                           ๑๔. บทก าหนดโทษ

                                - ก าหนดโทษอาญาแก่ผู้ยื่นค าขอหรือค าร้องอันเป็นเท็จ หรือโดยทุจริต
                                - ก าหนดโทษอาญาแก่แพทย์ผู้ออกค ารับรองอันเป็นเท็จ
                                - ก าหนดโทษกรณีผู้ที่ฝ่าฝืนข้อห้ามที่ก าหนดไว้ หรือ ไม่ด าเนินการให้เป็นไปตามสิทธิ
               ของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศตามที่ร่างกฎหมายนี้ก าหนดการรับรองและคุ้มครองไว้

                                                                                             ื่
                                                                                                   ั
                           เมื่อก าหนดสาระส าคัญได้แล้ว จัดสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการเพอรับฟงความเห็น
               ข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง “ร่างกฎหมายการรับรองเพศ ค าน าหน้านาม และการคุ้มครอง
               บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ : ภาคประชาชนผ่านกลไกรัฐสภา” จ านวน ๒ ครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘

               พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ โฮเต็ล เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อวันอังคารที่
               ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ อ าเภอเมืองขอนแก่น
               จังหวัดขอนแก่น และจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ร่างกฎหมายการรับรองเพศ ค าน าหน้านาม และการคุ้มครอง

               บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ” เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุม หมายเลข ๖๐๔
               ชั้น ๖ อาคารรัฐสภา
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221