Page 33 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25

ส่วนที่ ๓ หน้า ๒๑

้
พิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช
พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐

ิ
คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พการ กลุ่มชาติพนธุ์ และผู้มี
ั
ความหลากหลายทางเพศ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากว่าที่ร้อยตรีเพชรายุทธ ทรงชุ่ม รองประธานสภาเด็ก
และเยาวชนจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง ปัญหาของสภาเด็กและเยาวชน เกี่ยวกับประเด็นปัญหาและอุปสรรค
ในการด าเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรสาคร ที่เกิดจากการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
ั
ส่งเสริมการพฒนาเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพมเติม ที่ก าหนดคุณสมบัติของคณะบริหาร
ิ่
สภาเด็กและเยาวชนไว้ว่า ต้องมีอายุไม่เกิน ๒๕ ปี จึงท าให้คณะบริหารสภาเด็กและเยาวชนในบางพนที่
ื้
มีประธานสภาเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ ากว่า ๑๓ ปี ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่พร้อมในการขับเคลื่อนงาน

ตามภารกิจหน้าที่ของคณะบริหาร เนื่องจากไม่สามารถด าเนินการด้านนิติกรรมได้ด้วยตัวเอง รวมถึงปัญหา
การแทรกแซงการด าเนินงานจากผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ร้องจึงมีข้อเสนอแนะให้มีการ
แก้ไขกฎหมายในส่วนที่เป็นอุปสรรคต่อการด าเนินงานของสภาเด็กและเยาวชน

ในคราวประชุมคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พการ กลุ่มชาติพนธุ์
ั
ิ
ุ
และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๒๕ วันพธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยอาศัย
อ านาจตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการ
เพอพจารณาศึกษาปัญหาด้านเด็ก เยาวชน สตรี และผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพอด าเนินการ
ิ
ื่
ื่
เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว เสนอต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาโดยมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้
๑. ปัญหาความพร้อมในการด าเนินงานของสภาเด็กและเยาวชนต าบล เริ่มตั้งแต่กระบวนการ
ได้มาซึ่งสภาเด็กและเยาวชนต าบล ที่กฎหมายก าหนดให้มีการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนต าบล ๗,๒๐๐ แห่ง

ทั่วประเทศ ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ไม่มีการส ารวจความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในแต่ละพนที่เกี่ยวกับความพร้อมที่จะสนับสนุนการด าเนินงาน หรือความเข้าใจในการส่งเสริมการพฒนา
ื้
ั
เด็กและเยาวชน
๒. การที่กฎหมายไม่ก าหนดอายุขั้นต่ าของคณะบริหารสภาเด็กและเยาวชน ท าให้เกิดปัญหา
เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สภาเด็กและเยาวชนได้รับการอุดหนุน ที่จะต้องเปิดบัญชีธนาคาร

เพอรับเงินอุดหนุน ซึ่งกรณีที่ผู้เบิกจ่ายเป็นเด็กอายุต่ ากว่า ๑๕ ปี จะต้องมีผู้ปกครองให้ความยินยอม
ื่
เช่นนี้จึงกลายเป็นการเพมขั้นตอนและความยุ่งยากไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม ประเด็นการก าหนดอายุ
ิ่
ได้มีผู้เห็นแย้งว่า อาจเป็นการกีดกันสิทธิของเด็กที่มีศักยภาพ หรือกีดกันการด าเนินกิจกรรมในพนที่ที่ไม่มี
ื้
เด็กโตหรือไม่
๓. แนวทางการขับเคลื่อนการด าเนินกิจการของสภาเด็กและเยาวชน ที่กรมกิจการเด็ก

ื้
และเยาวชน ได้จัดท าไว้นั้น มีข้อก าหนดให้เด็กและเยาวชนที่มีทะเบียนอยู่ในพนที่เท่านั้น ที่จะสามารถ
เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสภาเด็กและเยาวชนในพนที่นั้นได้ ซึ่งเป็นการวางหลักเกณฑไว้แคบกว่าที่กฎหมาย
์
ื้
ก าหนด ดังนั้นจึงเห็นว่า ควรน าพระราชบัญญัติส่งเสริมการพฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐
ั
ิ่
ิ
และที่แก้ไขเพมเติม และแนวทางการขับเคลื่อนการด าเนินกิจการของสภาเด็กและเยาวชน มาพจารณา
ประกอบกันเพื่อให้เกิดความแน่ชัดว่าอุปสรรคในการด าเนินงานเกิดจากสาเหตุใดบ้าง