Page 4 - Glasgow Coma Scale ภาษาไทย
P. 4
2.การสื่อสาร (Verbal response : V) การประเมินการสื่อสารจะเริ่มขึ้นได้ผู้ป่วยจะต้องลืมตาจากการ
ประเมินการลืมตาก่อน เมื่อสามารถลืมตาได้ จะเริ่มการประเมินโดยให้ผู้ป่วยระบุชื่อตนเอง ระบุสถานที่ ณ
ปัจจุบัน ระบุวัน เวลา ระบุว่าผู้ประเมินเป็นใคร หากผู้ป่วยสามารถระบุได้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ป่วยจะได้คะแนน
5 คะแนน หากผู้ป่วยไม่สามารถระบุได้ถูกต้อง ระบุได้ถูกบ้าง หรือไม่สามารถระบุได้เลยแต่ยังสามารถพูดได้เป็น
ประโยคที่เข้าใจได้ ผู้ป่วยจะได้คะแนน 4 คะแนน หากผู้ป่วยไม่สามารถพูดได้เป็นประโยค พูดได้เพียงเป็นค าๆ
สั้นๆที่มีความหมาย ผู้ป่วยจะได้คะแนน 3 คะแนน หากผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสารเป็นค าได้ ท าได้แต่เพียงส่งเสียง
อือ อา ผู้ป่วยจะได้คะแนน 2 คะแนน หากไม่มีการตอบสนองจากผู้ป่วย ผู้ป่วยจะได้คะแนน 1 คะแนน
หมายเหตุ : ในการประเมินการสื่อสาร บางครั้งผู้ป่วยอาจจะมีปัจจัยบางประการที่อาจจะท าให้การประเมิน
คลาดเคลื่อน เช่น การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ Antidepressants เป็นต้น ที่ท าให้ความสามารถในการ
สื่อสารลดลง ดังนั้นผู้ประเมินควรตรวจสอบในขั้นตอนที่ 1 ให้ครอบคลุม
3.การเคลื่อนไหว (Movement : M) การประเมินการเคลื่อนไหวสามารถท าได้ทั้งที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวและ
ไม่รู้สึกตัว หากผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับผู้ประเมินได้ จะเริ่มให้ผู้ป่วยท าตามค าสั่ง เช่น การท า two – step
action โดย 1.การประเมินการเคลื่อนไหวของแขนและขา ให้ผู้ป่วยยกมือขึ้นมาจับมือผู้ประเมิน แล้วบอกให้
ผู้ป่วยปล่อยมือ หรือให้ขยับแขนทั้งสองข้าง จากนั้นให้ยกขาหรือขยับขาทั้งสองข้าง 2.การประเมินการ
เคลื่อนไหวของใบหน้า ให้ผู้ป่วยน าลิ้นมาแตะที่ริมฝีปาก ยักคิ้ว หรือกระพริบตา หากผู้ป่วยสามารถท าได้อย่าง
ใดอย่างหนึ่ง ผู้ป่วยจะได้คะแนน 6 คะแนน หากไม่มีการตอบสนองจากผู้ป่วยตั้งแต่ต้น เช่น ผู้ป่วยไม่ลืมตา
หรือไม่สามารถสื่อสารได้ ผู้ประเมินจะต้องเริ่มให้การกระตุ้น ซึ่งการกระตุ้นจะต้องมีความแรงมากกว่า
physical peripheral stimulate เพราะการกระตุ้นชนิดนี้ไม่สามารถกระตุ้น motor component ได้ ดังนั้น
การกระตุ้นที่เหมาะจะใช้ในการประเมินได้แก่ central stimulate โดยเริ่มจากต าแหน่งที่ 1. Trapezius pinch
วางมือบนไหล่ของผู้ป่วยในลักษณะที่นิ้วทั้งสี่เรียงชิดติดกันยกเว้นนิ้วโป่งเพื่อบีบกดที่ไหล่ผู้ป่วย โดยให้นิ้วโป่ง
อยู่ด้านหน้าของผู้ป่วยและนิ้วที่เหลือทั้งสี่อยู่ทางด้านหลังของผู้ป่วยจากนั้นเริ่มออกแรงกด ขณะที่กดจะต้อง
เพิ่มแรงกดขึ้นเรื่อยๆจนสามารถกระตุ้นผู้ป่วยได้ หรือหากไม่การตอบสนองให้เพิ่มแรงกดต่อไปจนครบ 10
วินาที ต าแหน่งที่ 2.Supraorbital notch การกระตุ้นนี้จะเริ่มท าเมื่อการกระตุ้น Trapezius pinch ไม่ได้ผล
โดยวางมือลงบนหน้าผากของผู้ป่วยให้นิ้วโป่ง กดลงบนหัวคิ้วของผู้ป่วย ขณะที่กดจะต้องเพิ่มแรงกดขึ้นเรื่อยๆ
จนสามารถกระตุ้นผู้ป่วยได้ หรือหากไม่การตอบสนองให้เพิ่มแรงกดต่อไปจนครบ 10 วินาที หากผู้ป่วยสามารถ
ใช้มือเคลื่อนที่มาถูกต าแหน่งที่เจ็บได้ ผู้ป่วยจะได้คะแนน 5 คะแนน หากผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนมือมาถูก
ต าแหน่งที่เจ็บได้ มีเพียงการเคลื่อนไหวมือไปมาในลักษณะการตอบสนองต่อความเจ็บปวด หรือผู้ประเมิน
อาจจะใช้ physical peripheral stimulate เพื่อประเมินว่ามีการชักแขนขาหนีหรือไม่ หากมีการชักแขนขาหนี
ผู้ป่วยจะได้คะแนน 4 คะแนน หากการกระตุ้นท าให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวในลักษณะเกร็งงอผิดปกติ ผู้ป่วยจะ
ได้คะแนน 3 คะแนน หากการกระตุ้นท าให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวในลักษณะเกร็งเหยียดผิดปกติ ผู้ป่วยจะได้
คะแนน 2 คะแนน หากไม่มีการตอบสนอง ผู้ป่วยจะได้คะแนน 1 คะแนน
หมายเหตุ : หากในขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบพบว่าผู้ป่วย spinal injury อันเป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหว
แขนหรือขาได้ ให้ใช้การประเมิน two – step action ในข้อ 2. หากสามารถท าได้ ผู้ป่วยจะได้คะแนน 6
คะแนน supraorbital notch stimulate จะไม่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วย facial injury จากการกระตุ้น two –