Page 2 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 2
เที่ยวบินกลางคืน
คํานํา
ปญหาที่บริษัทการบินตองเผชิญอยูก็คือ ตองแขงขันความเร็วกับการขนสงดานอื่น รีวิแอร
ผูนําซึ่งมีบุคลิกอันนายกยองไดอธิบายถึงมันไวในหนังสือเลมนี้วา “สําหรับพวกเรา มันเปนเรื่องชีวิต
และความตาย เมื่อระยะทางที่เราสามารถไปไดในตอนกลางวันทุกๆ วัน โดยรถไฟหรือเรือไอน้ํา เรา
กลับสูญเสียไปในยามกลางคืน” เมื่อตอนเริ่มตนงานบริการกลางคืนนี้ถูกวิพากษวิจารณอยางมาก แตก็
เปนที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในเวลาตอมา อยางไรก็ตามชวงเวลาในขณะที่เรื่องนี้เกิดขึ้น งานเชนนี้ก็
เสี่ยงตออันตรายเปนอยางมาก อันตรายที่ไมมีตัวตนของสายการบิน การเสี่ยงภัยที่เต็มไปดวยเรื่องนา
ประหลาดใจ ประกอบกับความลึกลับในเลหกลของยามกลางคืน มันยิ่งใหญ แตก็เปนอันตราย ผมขอ
เสริมวา ยิ่งเวลาผานไป การเสี่ยงก็ยิ่งลดนอยถอยลง การออกเดินทางทุกครั้งทําใหการเดินทางครั้ง
ตอไปงายและสะดวกยิ่งขึ้น แตสําหรับการบินในแงที่เปนการสํารวจดินแดนที่ยังไมปรากฏในแผนที่ จะ
มีวีรบุรุษผูบุกเบิกเกิดขึ้นเสมอ และ เที่ยวบินกลางคืน ก็เปนบทเริ่มตนของตํานาน ซึ่งวาดใหเห็นการ
ผจญภัยอันนาเศราใจของหนึ่งในผูบุกเบิกทางอากาศเหลานี้
ผมชอบหนังสือเลมแรกของแซงเต็กซูเปรี คือ Southern Mail แตก็ชอบเรื่องนี้มากกวา ใน
Southern Mail ขอรําลึกความหลังของนักบินที่มีความถูกตองแมนสย่ําอยางนาประหลาดเชื่อมโยงกับ
เรื่องลับลมคมในของความรูสึกภายใน ซึ่งทําใหตัวเอกเขามาใกลชิดเรายิ่งขึ้น เรารูสึกวามนุษยชาง
ออนโยนและหวั่นไหวงาย ชองออนแออะไรเชนนั้น! ตัวเอกของ เที่ยวบินกลางคืน แมวาจะดูเหมือน
เปนผูที่ลดคุณคาความเปนมนุษย แตเขากลับทะยานขึ้นไปสูคุณธรรมที่เหนือมนุษยไปอีก สิ่งที่ผมชอบ
มากที่สุดในหนังสือที่เราใจยิ่งเลมนี้ก็คือภูมิธรรมขั้นสูง (Nobility) ของมัน พวกเราทุกคนตางก็คุนเคย
กับความออนแอ การปลดปลอยของมนุษย และการยอนรอยถอยหลัง วรรณกรรมรวมสมัยตางก็ได
เพียรพยายามอยางยิ่งที่จะตีแผและประณามสิ่งเหลานี้ แตสิ่งที่เราตองการใหปรากฏอยูตรงหนาก็คือ
สิ่งที่อยูเหนือเราแตละคนซึ่งจะสามารถบรรลุไดก็โดยพลังแหงความตั้งใจเพียงอยางเดียว
ในความเห็นของผม สิ่งที่เราใจมากยิ่งกวาบุคลิกของนักบินก็คือ บุคลิกของรีวิแอรผูเปน
เจานาย เขาไมไดวางทา เขากระตุนคนอื่นไปสูการกระทํา ยอมใจนักบินดวยความสามารถของเขาเอง
กราดเกรี้ยว เคนเอาพลังสูงสุดของพวกเขาออกมาใช และบังคับใหพวกเขาออกไปสูการกระทําอยาง
กลาหาญ การตัดสินใจที่ไมอาจหลีกเลี่ยงไดของเขาไมยอมใหแกการถดถอยหนี และแมแตการละเลย
ไมเอาใจใสเพียงเล็กนอยก็จะถูกเขาลงโทษ เมื่อมองครั้งแรก ความเขมงวดของเขาอาจจะดูทารุณ
และเลยเถิดเกินไป แตก็ถูกนํามาใชอยางไมสมบูรณ และไมใชตอมนุษยโดยตรง ซึ่งเปนสิ่งที่รีวิแอร
ตองการหลอหลอม ภาพของเขาจากตัวหนังสือทําใหเรารูสึกไดถึงความชื่นชมอันเต็มเปยมของผูเขียน
ผมตองขอขอบคุณเขาเปนอยางมากที่ไดนําเอาความจริงอันเปนลักษณะขัดแยงกันออกมา สําหรับผม
มีความสําคัญในเชิงจิตวิทยาที่นาพิจารณาเปนอยางยิ่ง คือวาความสุขของมนุษยไมไดวางอยูบน
เสรีภาพ แตบนการยอมรับในหนาที่ตางหาก ตัวละครแตละตัวในหนังสือเลมนี้มีความกระตือรือรน อุทิศ
ตนอยางสุดใจใหแกสิ่งที่เขาควรกระทําใหแกหนาที่ที่เสี่ยงอันตรายซึ่งตองทําใหสําเร็จเทานั้น เขาจึง
จะสามารถพบความสงบในความสุขได มันชัดเจนเพียงพอแลวที่รีวิแอรจะไมไดเปนอะไร นอกจากเปน
ผูที่ไรความรูสึก (ฉากที่ภรรยาของนักบินมาเยี่ยมเขาเปนฉากที่ประทับใจมากที่สุด) และเขาก็ตองการ
ความกลาหาญอยางมากที่จะออกคําสั่งตอไป พอๆ กับนักบินของเขาก็ตองทําตามคําสั่งนั้นดวย
“เพื่อจะทําใหเราเปนที่รัก มันเพียงพอแลวที่จะแสดงความสงสาร ฉันแสดงความสงสารเพียง
นอยนิด หรือไมก็ซอนมันไว…บางครั้งฉันก็รูสึกประหลาดใจในพลังของตนเอง” และอีกครั้งวา “รักคน
ซึ่งคุณออกคําสั่ง – แตโดยไมตองบอกพวกเขา”
รีวิแอรก็ถูกขับโดยความรูสึกถึงหนาที่เชนเดียวกัน “ความรูสึกออนโยนอยูบางเบา ถึงหนาที่ที่
ยิ่งใหญกวาความรัก” ดวยความคิดที่วามนุษยไมใชจุดมุงหมายในตัวเอง แตเขาเปนรอง และตอง
เสียสละตนเองใหแกอะไรบางอยางที่เหนือกวา และแยกเนื้อหาของมันออกจากเขา ทําใหผมพอใจที่
1
พบวาในหนังสือเลมนี้มี “ความรูสึกออนโยน” ซึ่งความรูสึกนี้เปนสิ่งที่ทําใหเทพเจาโพรมีเธอุส * ของ
ผมกลาววา “ฉันไมชอบมนุษย ฉันชอบสิ่งซึ่งสังหารเขา” นี่คือบอเกิดวีรบุรุษทุกคน “เรามักจะแสดงราว
กับวา มันมีอะไรบางอยางที่ทําใหมนุษยมีคุณคาขึ้นมาไดอยางมากมายมหาศาล…แตอะไรละ” หรืออีก
ครั้งหนึ่ง “บางทีอาจจะมีสิ่งอื่นอีกบางอยางทนทานกวาที่จะไดรับการชวยชีวิต และบางทีงานที่รีวิแอร
กําลังทําอยูก็อาจจะเปนการชวยเหลือมนุษยในสวนนี้ก็ได” เราอาจจะแนใจไดในเรื่องนี้
ในชวงเวลาซึ่งความคิดเรื่องวีรบุรุษดูจดหดหายไปจากกองทัพ เนื่องจากคุณธรรมแบบมนุษย
ไมอาจจะคนพบชวงเวลาที่มั่นคงไดในสงครามของพรุงนี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตรของเราก็ไดพยากรณถึง
* โพรมีเธอุส คือเทพเจาในนิยายกรีกโบราณ ผูขโมยไฟจากสวรรคมาใหมนุษย