Page 3 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 3

ความรายกาจของมันมาแลว ไมใชในการบินหรอกหรือที่เราสามารถมองเห็นความกลาหาญอัน
                       นาชื่นชมและมีประโยชนที่สุด ความหุนหันพลันแลนก็ถูกยับยั้งลงเมื่อไดรับการควบคุมใหอยูในการ
                       จัดตั้งงานบริการนักบินผูซึ่งเสี่ยงชีวิตอยูซ้ําๆซากๆ มีสิทธิที่จะยิ้มเยาะใหกับความคิดเรื่อง “ความกลา
                       หาญ” ของเราทุกวันนี้ ผมเชื่อวาแซงเต็กซูเปรีคงจะใหอภัยที่ผมจะยกถอยคําจากจดหมายของเขาที่
                       เขียนใหผมเมื่อนานมาแลว ครั้งที่เขากําลังบินเหนือมัวเรตาเนีย บรรทุกไปรษณียของคาซาบลังคา
                       ดาการ
                              “ผมไมรูวาเมื่อไรจะไดกลับบาน ผมกําลังยุงมากในชวงเดือนหลังๆนี้ – คนหาเพื่อนที่สูญ
                       หายไป กูเครื่องบินที่ตกในดินแดนที่ไมลงรอยกัน และยังจะตองบินสงไปรษณียไปดาการเปนครั้งคราว
                       อีกดวย
                              “ผมเพิ่งจะไดผานเหตุการณผจญภัยเล็กๆ มาครั้งหนึ่ง – ใชเวลาสองวันสองคืนเพื่อกูเครื่องบิน
                       กับพวกมัวรสิบเอ็ดคน และชางเครื่องคนหนึ่ง มีความตื่นเตน โกลาหลกันมากมาย บางเรื่องก็สําคัญ
                       บางเรื่องก็ไม เปนครั้งแรกที่ผมไดยินเสียงลูกปนแลนเฉียดผานหัวไป ผมรูวาในที่สุดผมก็จะตองตนกอ
                       ยูในสถานการณเชนนั้น – ผมจึงสงบมากกวาพวกมัวร ผมไดเขาใจบางอยางที่มักจะทําใหผมพิศวงอยู
                       เสมอวา ทําไมเพลโต (หรืออริสโตเติลนะ) ถึงไดใหความกลาหาญเปนคุณธรรมขั้นต่ําสุด มันไมไดเกิด
                       ขึ้นมาจากความรูสึกที่สวยงามนัก มันเปนสัมผัสของความบาคลั่งเปนแตมแตะของกิเลส เปนความดื้อ
                       ดึงอยางมาก และเปนความรูสึกตื่นเตนหยาบๆ ของนักเลง เหนือสิ่งอื่นใด มันเปนความปติของพลัง
                       ทางกายของเรา และแมวามันจะไมมีประโยชนอะไรก็ตาม เราก็ยังสอดมือกอดอกที่โผลออกมาจาก
                       รอยแยกของเสื้อเชิ้ตและหายใจเขาลึกๆ ใช มันออกจะเปนที่นาพึงพอใจ เมื่อมันเกิดขึ้นในยาม
                       กลางคืน เราก็ไดความรูสึกเพิ่มเติมเหมือนกับวาไดเลนสนุกอยางเด็กๆ ผมไมสามารถจะยกยองผูที่มี
                       แตความกลาหาญเพียงอยางเดียวไดอีกเลย”
                              ผมตองขอเสริมดวยคําพังเพยที่ยกมาจากหนังสือของแกงตง (ซึ่งผมไมอยูในฐานะที่จะขอ
                       อนุญาตกอนได) วา “เราซอนความกลาหาญของเรา เหมือนกับที่ซอนความรัก” และที่ดีกวานั้นคือ “ผู
                       กลาหาญซอนการกระทําของเรา ในขณะที่ผูซื่อสัตยซอนทานของตน พวกเขาเปลี่ยนโฉมมันหรือรอง
                       ขอโทษใหมัน”
                              ทุกสิ่งที่แซงเต็กซูเปรีเขียนไวในที่นี้ลวนแตมีพื้นฐานอยูบนประสบการณ  “โดยตรง” การ
                       เผชิญหนาตามลําพังกับอันตรายครั้งแลวครั้งเลา ทําใหหนังสือเลมนี้มีรสชาติที่แทจริง และไมมีใคร
                       สามารถลอกเลียนแบบได เรามีเรื่องสงครามและการผจญภัยในจินตนาการอยูมากมาย ซึ่งบางครั้ง
                       ความสามารถของผูเขียนก็ดูออนดอยลง และนักผจญภัยหรือผูตอสูที่แทจริงก็อดที่จะอานดวยรอยยิ้ม
                       ไมได หนังสือเลมนี้ นอกจากจะมีขอดีทางดานวรรณกรรมซึ่งผมยอมรับมากแลว มันยังมีคุณคาในดาน
                       สารคดี และเปนเพราะสวนผสมอันแปลกประหลาดของทั้งสองประการนี้เองที่ทําให เที่ยวบินกลางคืน
                       มีความสําคัญเปนพิเศษ

                                                                       อองเดร  ฌีด
   1   2   3   4   5   6   7   8