Page 21 - Digital Thailand pocket book TH
P. 21
- 18 -
1.3 สถานภาพการพัฒนาด้านดิจิทัลในประเทศไทย
ประเทศไทยจะสามารถน าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศได้มากน้อยเพียงใดนั้น
เงื่อนไขที่ส าคัญคือ ความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน และความสามารถในการ
พัฒนา เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลของประเทศในอนาคต ดังนั้น การจัดท าแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคมจึงต้องมีการประเมินสถานภาพปัจจุบันของการพัฒนาด้านดิจิทัล
1. โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารดิจิทัลของประเทศไทย
ยังคงมีจุดอ่อนในการแพร่กระจายและส่งผลถึงการเข้าถึงและ
การใช้งานในภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ที่มีระดับ
ต่ า ดังจะเห็นได้จากการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
ของประชาชนไทยที่มีจ านวนครัวเรือนเพียงร้อยละ 29.96 หรือ
7
ประชากรเพียงร้อยละ 8.99 ของประชากรทั้งหมดที่เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่าย
โทรศัพท์ประจ าที่ (fixed broadband penetration) แม้ว่าอัตราการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
ผ่านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนจะมีมากพอสมควรคือ ร้อยละ 52.5 ของประชากร
นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงการเข้าถึงอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในมิติของพื้นที่ พบว่า โครงสร้าง
พื้นฐานด้านการสื่อสารดิจิทัลยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะระดับหมู่บ้าน มีหมู่บ้านประมาณร้อยละ 53
จากจ านวน 74,965 หมู่บ้าน ที่สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ส่วนที่เหลือเป็นหมู่บ้านที่อยู่
ห่างไกลซึ่งยังขาดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่เพียงพอ ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐที่ส าคัญ เช่น
โรงเรียน โรงพยาบาลสุขภาพประจ าต าบล (รพ.สต.) องค์การบริหารส่วนต าบลหลายแห่ง ยังไม่สามารถเข้าถึง
โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้
ความสามารถในการเข้าถึงและใช้งานของประชาชนและองค์กร ยังขึ้นกับอัตราค่าบริการที่เหมาะสมกับ
ระดับค่าครองชีพ (affordability) ซึ่งราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 5.8
ของรายได้มวลรวมประชาชาติ (หรือ GNI) ในขณะที่ค่าบริการของประเทศเพื่อนบ้านมีราคาที่ต่ ากว่ามาก
อินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศ (international internet bandwidth) และการเชื่อมต่อ
โครงข่ายระหว่างประเทศ เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งในช่วงทศวรรษที่
ผ่านมาอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศในภูมิภาคและประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เพื่อรองรับการประยุกต์ใช้งานและบริการที่มีการรับส่งข้อมูลปริมาณมากผ่านเครือข่ายความเร็วสูง ปริมาณ
อินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ระหว่างประเทศของไทยมากกว่าร้อยละ 50 มีการติดต่อสื่อสารไปยังประเทศที่เป็น
ศูนย์กลางการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต มีแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่เป็นที่ต้องการของผู้ใช้งาน
ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยประเทศไทยมีโครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศ
เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านสายใยแก้วน าแสงทางภาคพื้นดิน และเชื่อมโยงกับประเทศอื่นๆ
ผ่านเคเบิลใต้น้ า แต่โครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะโครงข่ายสื่อสารผ่านเคเบิลใต้น้ า
ยังน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีเคเบิลใต้น้ าเพียง 11 เส้น (ใช้งานอยู่จริง 5 เส้น)
และมี 4 landing stations
7 http://www.nbtc.go.th/TTID/