Page 229 - Full paper สอฉ.3-62

ส่งผลต่อผิวชิ้นงาน ซึ่งวัดได้จากการเปลี่ยนแปลงของค่าความแข็งผิว
2. การวัดประสิทธิภาพของการกัดเซาะด้วยไฟฟ้า งาน (Hardness)

(Measuring of Performance in EDM process) 5.4 วัสดุชิ้นงาน (Work piece Materials)
3. วัสดุชิ้นงาน (Work piece Materials) วัสดุที่นำมาแปรูปด้วยเครื่อง EDM จะต้องเป็นตัวนำไฟฟ้าที่
4. วัสดุอิเล็กโตรด (Electrode Materials) ดี ความแข็งของวัสดุไม่เป็นอุปสรรคต่อการแปรรูป โดยเครื่อง EDM
5. วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถแปรรูปโลหะพวกเหล็กกล้า (Mild steel), เหล็กกล้าคาร์บอน
สูง (High Carbon Steel) โดยงานวิจัยฉบับนี้จะใช้เหล็กเครื่องมืองาน
5.2 การกัดเซาะด้วยไฟฟ้า (EDM: Electrical Discharged ร้อน Hot work tool steel (SKD61)เหล็กล้า SKD 61 เป็นเหล็กกล้า
Machine) ที่ผสมธาตุที่สำคัญ เพื่อความทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีสามารถชุบแข็งได้
จากนิยามตามมาตรฐาน DIN 8580 สามารถจัดได้ว่า ดี ในเตาสุญญากาศที่มีความดันสูง จะได้ความแข็งที่ดี และทนต่อ
กระบวนการกัดกร่อนของเครื่องกัดเซาะโลหะด้วยไฟฟ้ากระบวนการ ความสึกได้ดี หลังจากชุบแข็งและอบคืนไฟแล้ว สามารถเพิ่มความ
แยก (Separating) อนุภาค (Particles) ของวัสดุ (Materials) โดย แข็ง เช่น ไนไตรดิ้ง เหมาะสำหรับงานแม่พิมพ์ฉีดโลหะ งานแม่พิมพ์
อาศัยความร้อนจากการสปาร์คของไฟฟ้าให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี อัดดันขึ้นรูป แม่พิมพ์ทุบขึ้นรูป แม่พิมพ์แก้ว และ แม่พิมพ์พลาสติก
(Electrochemical) เข้าไปทำลายพันธะการจับยึดของอนุภาคออก แม่พิมพ์ EXTRUSION ฟอจจิ้งแม่พิมพ์งานร้อน5.5 เม็ดพลาสติกต่างๆ
จากเนื้อวัสดุในรูปของของแข็ง ของเหลวหรือแก๊ส การกัดกร่อนด้วย สกรูและกระบอกงานฉีดพลาสติกและโลหะ ตัวปลดชิ้นงาน ใบตัด
ไฟฟ้า (Electro erosion) ตามมาตรฐานดังกล่าวยังรวมไป เหล็กร้อน องค์ประกอบทางเคมีของชิ้นงานเหล็กล้า SKD 61 ดัง
ถึงการจ่ายประจุระหว่างขั้วสองขั้วเพื่อให้เกิดการสึกกร่อนใน ตารางที่ 2.1 และโครงสร้างจุลภาคเหล็กกล้า SKD61
ของเหลว (Dielectric Fluid) อีกด้วย
สำหรับหลักการของกระบวนการกัดโลหะวัสดุด้วยไฟฟ้าหรือ 5.5 วัสดุอิเล็กโตรด (Electrode Materials)
อีดีเอ็มโดยมีหลักการเบื้องต้นดังแสดงในรูปที่ 2.3 ซึ่งสามารถสรุปได้ อิเล็กโตรดกราไฟท์เป็นอัญรูปหนึ่งของธาตุคาร์บอน ชื่อ
เป็นขั้นตอนย่อยเป็นดังนี้ สามัญเรียกว่า พลัมเบโก (Plumbago) หรือแร่ดินสอดำโดยเป็นตัวนำ
1. อิเล็กโตรดเข้าใกล้ชิ้นงานโดยขั้วไฟฟ้าประจุบวกและ ความร้อนและไฟฟ้าได้ดี มักใช้ทำไส้ดินสอดำ เบ้าหลอมโลหะ
ประจุลบจะเกิดการถ่ายเทพลังงาน น้ำมันหล่อลื่นบางชนิด ไส้ถ่านไฟฉาย ไส้ไฟอาร์ค และในงานวิจัยใน
2. เกิดการรวมกันของสนามไฟฟ้าที่บริเวณพื้นที่ว่างระหว่าง ครั้งนี้ได้เลือกใช้กราไฟท์แบบพิเศษ ซึ่งคุณสมบัติผลิตภัณฑ์กราไฟท์
อิเล็กโตรดและชิ้นงาน แบบพิเศษยังสามารถใช้ในอุตสาหกรรมในหลายๆด้าน ความต้องการ
3. เกิดการถ่ายเทประจุที่บริเวณพื้นที่ว่างระหว่างอิเล็กโตรด จากอุตสาหกรรมในระยะเวลานานหลายปีนี้เป็นของคาร์บอน ซึ่งมี
และชิ้นงานเมื่อความต่างศักย์ระหว่างอิเล็กโตรดและชิ้นงานสูงขึ้น จะ คุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจงและมีความเสถียรมากขึ้น ในส่วนนี้ บริษัท:
เกิดการปลดปล่อยพลังงานทำให้เกิดการสปาร์คที่ผิวของชิ้นงาน TOYO TANSO (Thailand) Co.,Ltd. ถือเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรม
4. หยุดการสปาร์คทันที ทำให้เกิดแรงระเบิด ซึ่งมีค่ามากเมื่อ นี้โดยการพัฒนา “Isotropic Graphite” ขึ้นมา นี้เป็นกราไฟท์ที่มี
เทียบกับพื้นที่ในการสปาร์ค อนุภาคเล็กและมีโครงสร้างและคุณสมบัติแบบไอโซโทรปิก ซึ่งสร้าง
5. หลังจากการระเบิดเศษชิ้นงานจะถูกขจัดออกไปโดยแรง จากการอัดด้วยแรงดันเท่ากันทุกทิศทางแบบเย็น (Cold Isostatic
ฉีดของน้ำมัน หรือของเหลวตัวกลาง (Dielectric Fluid) pressing-CIP) ผลิตภัณฑ์ Isotropic Graphite ถูกใช้กันอย่าง
กว้างขวางในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึง
5.3 การวัดประสิทธิภาพของกระบวนการกัดเซาะด้วย อุตสาหกรรมเซมิคอมดักเตอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีการก้าวกระโดด
ไฟฟ้า (Measuring of Performance in EDM Process) อย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมพลังงานที่สามารถนำกลับมาทำให้เกิดขึ้น
กระบวนการกัดเซาะด้วยไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิด ใหม่ได้ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ที่ต้องการ
การกัดกร่อน ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการสึกหรอของอิเล็กโตรด ซึ่งขึ้นอยู่ ความแม่นยำเป็นสำคัญ และอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์ซึ่งต้องการ
กับเงื่อนไขของกระบวนการ โดยทั่วไปแล้วจะวัดความสามารถในการ คามหน้าเชื่อถือสูง คุณสมบัติกราไฟท์แบบพิเศษดังแสดงในตารางที่
กัดเซาะเนื้องานอยู่ในรูปของอัตราการขจัดเนื้องาน และวัดการสึก 2.2 และโครงสร้างจุลภาคของกราไฟท์แบบ
กร่อนของอิเล็กโตรดอยู่ในรูปของอัตราการสึกหรอของอิเล็กโตรด
ตลอดจนวัดประสิทธิภาพการทำงานที่มีผลต่อวัสดุชิ้นงานอยู่ในรูป
ของคุณภาพผิวงาน (Surface Quality) โดยส่วนใหญ่จะวัดอยู่ในรูป
ของความหยาบผิวเฉลี่ย (Ra) นอกจากนี้แล้วความร้อนที่เกิดขึ้นยัง

211