Page 349 - Full paper สอฉ.3-62
P. 349
2. การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard ตารางที่ 4.1 แสดงผลเวลาในการเปลี่ยน Model หลังจากที่ได้ติดตั้ง Jig
Deviation) ของระดับคะแนน โดยใช้สูตร ดังนี้ เข้าไปใหม่
2
N X − ( X ) 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านคุณภาพการใช้งานพบว่า
S.D. = ข้อที่ 1 ความคิดสร้างสรรค์การออกแบบพัฒนาเครื่องค่าเฉลี่ย
N (N − ) 1
เท่ากับ 4.14 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.69 และมีคุณภาพใน
เมื่อ S.D. = ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับ ดี
X 2 = ผลรวมของคะแนนทุกค่ายกกำลังสอง ข้อที่ 2 . เครื่องมีความเหมาะสม สามารถทำงานได้จริง
ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.42 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.53 และมี
ผลการวิจัย คุณภาพในระดับ ดี
ก่อนการออกแบบอุปกรณ์ตั้งระยะแบบเดิมมีลักษณะ ข้อที่ 3 ประสิทธิภาพของเครื่อง วัสดุอุปกรณ์มีความแข็งแรง
การทำงานที่มีความลำบาก ซับซ้อน โดยการทำงานจะต้องมี ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.42 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.79 และมี
การใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยและมีหลายขั้นตอน จึงทำให้การ คุณภาพในระดับ ดี
เกิดเวลาในการเปลี่ยน Model ที่มาก แสดงในภาพที่ 4.1 ข้อที่ 4 เครื่องสามารถถอดประกอบชิ้นส่วนเพื่อซ่อมบำรุงได้
เท่ากับ 4.43 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.53 และมีคุณภาพใน
ระดับ ดี
ข้อที่ 5 ความปลอดภัยในการใช้งานค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.57
ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.53 และมีคุณภาพในระดับ ดีมาก
ข้อที่ 6 ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 4.29 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.49 และมีคุณภาพใน
ระดับ ดี
ข้อที่ 7 ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพด้านการใช้งาน ค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 4.38 ค่าเฉลี่ย S.D. เท่ากับ 0.59 และมีคุณภาพใน
ภาพที่ 4.1 แสดงอุปกรณ์ตั้งระยะก่อนติดตั้งอุปกรณ์ ระดับ ดี
หลังการพัฒนาและติดตั้งอุปกรณ์เสร็จแล้ว ได้ทำการ สรุปผล
ทดสอบ ประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน การทำงานก็จะ จากการวิจัย การออกแบบและสร้างอุปกรณ์ตั้งระยะ
สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นไม่ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วยและลด แปรงขัดชิ้นงาน เพื่อลดเวลาในการทำงาน ผู้วิจัยพบว่า
ขั้นตอนในการตั้งระยะของ Jig จึงทำให้ลดเวลาของการเปลี่ยน อุปกรณ์ตั้งระยะสามารถใช้งานได้จริง ลดเวลาการทำงานได้
Model ลดลง แสดงในภาพที่ 4.2
และเพิ่มความปลอดภัยความสะดวกสบายให้กับผู้ทำงานอีก
ด้วย ได้ตอบโจทย์ตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ ค่าเฉลี่ยการใช้งาน
ค่าเฉลี่ย (Mean) มีค่าเท่ากับ 4.38 และค่าส่วนเบี่ยงแบบ
มาตรฐาน 0.59 มีคุณภาพในระดับ ดี เนื่องจากอุปกรณ์ตั้ง
ระยะยังต้องมีการปรังปรุงแก้ไขยังทำงานได้ไม่เต็ม
ประสิทธิภาพระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานยังมีสิ่งที่ควร
ปรับปรุงอีกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ตั้ง
ระยะ
ข้อเสนอแนะ
ภาพที่ 4.2 แสดงการติดตั้งอุปกรณ์ตั้งระยะในกระบวนการขัดแปรง จากการวิจัยการออกแบบและสร้างอุปกรณ์ตั้งระยะ
ผู้วิจัยได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบ แปรงขัดชิ้นงาน เพื่อลดเวลาในการทำงานในครั้งนี้ หาก
เวลาก่อน หลังในการเปลี่ยน Model ของกระบวนการขัด ผู้จัดทำมีโอกาสในการพัฒนาในวันข้างหน้าผู้จัดทำจะออกแบบ
แปรง โดยมีการเปลี่ยน Model 8 ครั้งในแต่ละวันและมีเวลาที่ เพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะทำเป็นระบบ
สูญเสียไปในแต่ละครั้งดังแสดงในตารางที่ 4.1 Automatic ทำงานโดยการเลือกเมนู Model บนเครื่องจักร
ซึ่งไม่ต้องปรับเปลี่ยนตัวตั้งระยะ
3
331