Page 46 - Prawet

50

เนนมุมมองใหสัมพันธกับแกนกลางของมัสยิดดังนั้นซุมประตูมักเปนสวนที่มีการประดับตกแตงอยาง
สวยงามเชนเดียวกับโดม และหออะซาน

กกกกกกกกกก3.2.2 วันสําคัญทางศาสนาอิสลาม
1)กิจกรรมทางศาสนาประจําวัน
(1)การละหมาด 5 เวลาหรือการปฏิบัติศาสนกิจบูชาสักการะอัลลอห

ดวยการอานบทสรรเสริญและการกลาวคําวิงวอนตอพระเจาในอิริยาบทตางๆเชนยืนกมกราบและนั่ง
โดยการละหมาดภาคบังคับ (ฟรฎ) วันละ 5 เวลาประกอบดวย
ก ย่ํารุง(ศุบฮิ) ประมาณตี 5 - 6 โมงเชา
ข บาย (ซุหฺริ) ประมาณเที่ยงครึ่ง – บายโมง

ค เย็น (อัศริ) ประมาณบาย 3 ถึง 5 โมงเย็น
งพลบค่ํา (มัฆริบ) ประมาณ 6 โมงครึ่งถึงทุม
จกลางคืน (อิชาอ) กอนนอนประมาณ 2 ทุมเปนตนไป

ในการละหมาดวันศุกร (ุมุอะหฺ) เปนการทําละหมาดรวมกันชวงเวลาบาย
กอนละหมาดจะมีเทศนา (คุฏบะหฺ) ซึ่งจะเปนการสอนหลักคําสอนของพระผูเปนเจา

(2) ในการสอนศาสนาภายในมัสยิดจะมีการสอนสัปดาหละหนึ่งครั้งเปนประจําทุก
วันศุกรซึ่งถือวาเปนวันที่ทุกคนตองมารวมตัวเพื่อที่จะประกอบพิธีกรรมทางศาสนกิจเปนจํานวนมาก

อีกหนึ่งวันหรือการประชุมกันภายในชุมชนในเรื่องงานบุญหรือเทศกาลกิจกรรม ตางๆ

2)กิจกรรมทางศาสนาในรอบป

(1) วันอิดุลฟฏริเปนวันแรกของการออกจากการถือศีลอดของชาวมุสลิม (วันที่ 1ของ
เดือนเชาวาลเปนวันสังสรรคเพื่อตอบแทนสาหรับมุสลิมที่ผานการทดสอบประจําปในเดือนรอม
มาฎอนดวยการบังคับจากการกินอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอีกทั้งจะตองอยูในความสํารวมตน
ลดละกิเลสตัณหาและยืนฟงการอานอัลกรุอานในการละหมาดตะรอวีหเปนเวลาหนึ่งชั่วโมงตลอดค่ํา

คืนของเดือนรอมมาฎอน

(2) อีดิลอัฎฮาคือวันที่ 10 ของเดือนซุลหิจญะฮฺซึ่งเปนวันที่ถัดจากวันอะ
เราะฟะฮฺหนึ่งวันและเปนวันสงทายของสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺและในการปฏิบัติศาสนกิจใน

10 วันนี้จะไดบุญมากที่สุดเพราะเปนวันหัจญอักบัร (หัจญใหญ) นบีมูฮัมหมัดกลาววา “ไมมีวันใดๆที่
การปฏิบัติ (ความดีและศาสนกิจ) จะเปนที่ชอบใจของอัลลอฮฺมากกวาการปฏิบัติในสิบวัน (แรกของ
เดือนซุลหิจญะฮฺ)“วันที่ประเสริฐที่สุดณอัลลอฮฺคือวันนะหัร (วันอีดิลอัฎฮา)” “ วันนะหัรฺคือวันหัจญ
อักบัรฺ ” ถึงแมวาอีดิลอัฎฮา (ซึ่งเปนวันอีดที่ยิ่งใหญที่สุดในรอบปและยิ่งใหญกวาวันอีดิลฟฏรฺ) อิสลาม

จึงไดรวมเอาวันที่ 9 ซุลหิจญะฮหรือวันอะเราะฟะฮและวันที่ 11-13 ซุลหิจญะฮหรือวันตัชุรีกเขากับ