Page 44 - khlongsamwa
P. 44
37
ddddddd3. ความส่าคัญของวัดแป้นทองโสภาราม
วัดแป้นทองโสภาราม ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มกลางทุ่งนา ระหว่างคลองสามวาตะวันตก
และคลองสี่ตะวันตก มีระยะห่างจากคลองทั้งสอง ข้างละ 20 เส้น ณ ปัจจุบันปี พ.ศ. 2557 มีพื้นที่
ทั้งหมดประมาณ 25 ไร่ 2 งาน 16 ตารางวา ซึ่งได้มาโดยการบริจาคของชาวรามัญ ทั้ง 2 คลอง พื้นที่
ของวัดแป้นทองโสภาราม มีอาณาเขตติดต่อกับสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อถนนวัดแป้นทอง
ทิศใต้ ติดต่อกับที่ดินเอกชน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับโรงเรียนวัดแป้นทอง โดยมีคลองกั้นกลาง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับที่นาของเอกชน
พื้นที่วัดมีการขุดคลองซอยเชื่อมระหว่างคลองสามวาตะวันตกกับคลองสี่ตะวันตก
ผ่านหน้าวัด เรียกว่าคลองวัดแป้นทองหรือคลองวัด พร้อมกับขุดคูล้อมรอบวัดเชื่อมกับคลองวัด
ชาวรามัญที่ร่วมกันสร้างวัดแป้นทองนั้น เมื่อสืบค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2419
พระยาด่ารงราชพลขันธ์ (จุ้ย คชเสนี) พ.ศ. 2401–2436 ซึ่งท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ของเจ้าพระยา
มหาโยธา (ธอเรียะ) และเป็นหลานของเจ้าพระยา มหาโยธา (เจ่ง) ต้นสกุล คชเสนี ได้เป็นเจ้าเมืองคนที่ 2
ของเมืองนครเขื่อนขันธ์ ปรากฏว่า ตัวเมืองนครเขื่อนขันธ์ มีพื้นที่เป็นเกาะด้านหน้าเป็นแม่น้่า
เจ้าพระยา ด้านหลังเป็นคลองลัดหลวง พื้นที่ท่าการเกษตรมีน้อย จ่านวนประชากรชาวมอญเพิ่ม
จ่านวนมากขึ้นหลายสิบเท่า จ่าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอพยพชาวมอญไปจับจองพื้นที่ในแหล่งอื่น ๆ
ที่ว่างอยู่ จึงได้ปรึกษากับกรมหลวงนเรศรวรฤทธิ์ (เจ้าชายกฤษดาภินิหาร หรือเจ้ามอญ) ซึ่งเป็นราชโอรส
ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 (4 เมษายน พ.ศ. 2394 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
กับเจ้าจอมมารดากลิ่น ธิดาของพระยาด่ารงราชพลขันธ์ ดังนั้น กรมหลวงนเรศรวรฤทธิ์ ซึ่งมีศักดิ์