Page 163 - คณิตศาสตร์ ม.ปลาย
P. 163

163



                   ผลลัพธทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทดลองสุม มี 4   แบบ คือ HH, HT, TH และ TT

                   นั่นคือผลลัพธของ เหตุการณที่จะออกหัวอยางนอย 1 ครั้ง มี 3 แบบ คือ HH, HT และ TH
                   4.  ความนาจะเปนของเหตุการณ

                             ความนาจะเปนของเหตุการณ คือ จํานวนที่แสดงใหทราบวาเหตุการณใดเหตุการณหนึ่งมีโอกาส

                   เกิดขึ้น มากหรือนอยเพียงใด

                             ความนาจะเปนของเหตุการณใด ๆ เทากับอัตราสวนของจํานวนเหตุการณที่เราสนใจ (จะใหเกิดขึ้น
                   หรือไมเกิดขึ้นก็ได) ตอจํานวนผลลัพธทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นได ซึ่งมีสูตรในการคิดคํานวณดังนี้

                                                             จํานวนผลลัพ ธของเหตุก ารณที่เรา สนใจ
                          ความนาจะเปนของเหตุการณ     =       จํานวนผลลัพ ธทั้งหมดท  ี่อาจจะเกิ ดขึ้นได



                   เมื่อผลทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทดลองสุมแตละตัวมีโอกาสเกิดขึ้นไดเทาๆ กัน

                             กําหนดให E     แทน เหตุการณที่เราสนใจ

                                         P(E) แทน ความนาจะเปนของเหตุการณ
                                         n(E)  แทน จํานวนสมาชิกของเหตุการณ

                                         n(S)  แทน จํานวนสมาชิกของผลลัพธทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นได

                                  ดังนั้น   P( E )  =    n (E )
                                                  n (S )


                   ตัวอยางที่ 1   มีลูกปงปอง 4 ลูก เขียนหมายเลขกํากับไวดังนี้คือ 0, 1, 2, 3 ถาสุมหยิบมา 2 ลูก จงหาความ
                   นาจะเปนที่จะไดผลรวมของตัวเลขมากกวา 3

                   วิธีทํา   ให  S เปนแซมเปลสเปซ

                                              S = {(0, 1),(0, 2),(0, 3),(1, 2),(1, 3),(2, 3) }

                          จะได  n(S) = 6
                          E เปนเหตุการณหรือสิ่งที่โจทยอยากทราบ

                                            E = {(1, 3),(2, 3)}

                          จะได n (E) = 2
                                                     n ( )                   2   1
                                                       E
                           นั่นคือ จากสูตรขางบนคือ p( E =)  แทนคาได     ( ) =EP  =
                                                     n ( ) S                 6   3
                                                                                 1
                                      ความนาจะเปนที่จะไดผลรวมของตัวเลขมากกวา 3 เทากับ
                                                                                 3
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168