Page 68 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 68

๖๒


               ๖. ปสูติกาโล กาลประสูติ เวลาประสูติ หมายความว่า ในชาติที่สุดนั้น นิยตโพธิสัตว์มีการประสูติดังนี้

                                                                                   ึ้
               คือ เวลาจะประสูติ พระมารดายืน ส่วน พระองค์ท่านที่อยู่ในครรภ์ ก็ยืนขนและทรงเหยียดพระหัตถ     ์
               ทั้งสองลงไป ตามลําขา มีอาการเหมือนพระเทศน์ลงจากธรรมาสน์ ไม่รู้สึกลําบาก พระองค์และพระ

               มารดาเลย หมื่นโลกธาตุก็หวั่นไหวใหญ่ ๗. มะนุสสะชาติโย เกิดเป็นมนุษย์ หมายความว่า การที่นิยต

                                                                                        ่
                                                                                ิ
               โพธิสัตว์ ผู้มีบุญญาภินิหารเต็มที่สามารถเลือกเกิดได้ตามชอบใจในชาตที่สุด แตต้องเกิดเป็นมนุษย์นั้น
               ก็นับเป็นข้อควรอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ท่านอ้างเหตุ ไว้ ๓ อย่าง คือ


                                        ี่
               ๑. มนุษยโลก สมควรเป็นทตั้งศาสนพรหมจรรย์ คือ การบรรพชาอุปสมบท ซึ่งทรงคําสั่งสอนไว้

               ๒. เป็นที่อัศจรรย์ในพุทธานุภาพ


               ๓. เป็นที่มีโอกาสไว้พระสารีริกธาตุในเวลาพระองค์นิพพาน


                       ส่วนต่อไปนนับว่าเป็นส่วนเพิ่มเติมเพราะส่วนข้างบนทั้งหมดเป็นคําสนทนา โดยตรงระหว่าง
                                 ี้

               พระศรีอริยเมตไตรยกับพระอรหันต์พระนามพระมาลัยเถระ แต่ส่วนที่จะยกมาตรงนี้เป็นบทสนทนา
               ระหว่างสมเด็จพระอมรินทราธิราช กับพระมาลัยเถระ เกี่ยวกับ พระศรีอาริย์ก่อนที่พระมาลัยจะได้มี

               โอกาสกราบเข้าเฝูาและทูลถาม



                                                                ั้
                       ดูกรมหาบพิตร สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยนน พระองค์ท่านได้ทรงบําเพ็ญ กุศลธรรมเป็น
               ประการใด จึงประกอบไปด้วยรัศมีเครื่องประดับประดา อาภรณ์วิภูสิตงดงามยิ่งกว่าเทพยดาองค      ์

               ไหนๆ ทั้งมีเทพบุตรเทพธิดาเป็น บริวารถึงแสนโกฏิปานนี้ มหาบพิตร



                       ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ อันกุศลกรรมของพระศรีอรยเมตไตรยหน่อพระ- พุทธางกูร พระองค      ์
                                                                       ิ
               ทรงก่อสร้างกุศลสมภารมา ก็ด้วยความปรารถนาจะ ปลดเปลื้องซึ่งหมู่สัตว์อันขัดข้องอยู่ด้วยเครื่อง

                                                                ุ
               จองจําคือกิเลสมาร ทรงตั้ง พระทัยจะโปรดปรานมนสสมบัติแก่หมู่สรรพสัตว์ จึงได้อุตส่าห์บําเพ็ญ
               เนกขัมมบารมีเปนหลายแสนโกฏิแห่งกัปป์ฯ
                               ็


                       หวังจะโปรดประทานพระโสดาป๎ตติมรรคโสดาป๎ตติผล แก่บุคคลผู้เห็นทุกข จึงอุตส่าห์บําเพ็ญ
                                                                                           ์
               ป๎ญญาบารมีฯ


                       หวังจะโปรดประทานพระสกทาคามิมรรค แก่นรชนผู้เห็นประจักษ์ในทาง อนิจจัง จึงทรง

               บําเพ็ญวิริยบารมี
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73